11 หน่วยพร้อมทำฝนหลวงทันทีที่อากาศเอื้ออำนวย

22 ก.พ. 2563 | 09:00 น.

เปิดแผนฝนหลวงปฎิบัติการสลายฝุ่น ดับแล้ง เผยจุดความร้อน 279 จุดกระจายทั่วไทย

11 หน่วยพร้อมทำฝนหลวงทันทีที่อากาศเอื้ออำนวย

​​วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563. นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า แผนการปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 ตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยออกประกาศเขตพื้นที่ภัยแล้ง ยังคงมีจำนวน 22 จังหวัด (รวม 128 อำเภอ 676 ตำบล 3 เทศบาล 5,849 หมู่บ้าน) บริเวณพื้นที่ภาคเหนือ ที่ จ.เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย เพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และศรีสะเกษ

11 หน่วยพร้อมทำฝนหลวงทันทีที่อากาศเอื้ออำนวย

ภาคกลาง ที่ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และฉะเชิงเทรา ขณะที่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ของปริมาณน้ำเก็บกัก เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 19 แห่ง และอ่างเก็บน้ำ   ขนาดกลาง 142 แห่ง เพิ่มขึ้นจากภาคเหนือ 1 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่ง สำหรับจุดความร้อนหรือจุดที่มีการเผาไหม้ (Hotspot) ในประเทศไทย พบว่ามีจำนวน 279 จุด กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ทุกภูมิภาค

11 หน่วยพร้อมทำฝนหลวงทันทีที่อากาศเอื้ออำนวย

รวมถึงได้รับอิทธิพลจากการเผาไหม้บริเวณประเทศเพื่อนบ้านด้วย จึงส่งผลให้ในหลายพื้นที่ของจังหวัดต่างๆ และบริเวณกรุงเทพฯ ปริมณฑล มีค่าคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง-เกณฑ์เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ดังนั้น จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันลดการเกิดปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ โดยงดการเผาทุกชนิดทั้งในพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ป่า

11 หน่วยพร้อมทำฝนหลวงทันทีที่อากาศเอื้ออำนวย

สำหรับข้อมูลของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เรื่องปริมาณน้ำฝนสะสมรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 15 – 21 กุมภาพันธ์ 2563 พบว่า พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ไม่มีปริมาณน้ำฝนสะสมและเริ่มประสบปัญหาภัยแล้ง ส่วนพื้นที่ภาคใต้ยังคงมีฝนปริมาณเล็กน้อย ทั้งนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะติดตามสถานการณ์และวางแผนช่วยเหลือต่อไป

11 หน่วยพร้อมทำฝนหลวงทันทีที่อากาศเอื้ออำนวย

​สำหรับการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ จากผลการตรวจสภาพอากาศของสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ พบว่า ส่วนใหญ่มีความชื้นสัมพัทธ์ที่ระดับการเกิดเมฆ และความชื้นสัมพัทธ์ที่ระดับการพัฒนาตัวของเมฆอยู่ในระดับ 60% ขึ้นไป

11 หน่วยพร้อมทำฝนหลวงทันทีที่อากาศเอื้ออำนวย

แต่ค่าดัชนียกตัวของอากาศ ไม่เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง (มากกว่า -2.0) ประกอบกับมีค่าความเร็วลมเกิน 36 กม./ชม. ในบางพื้นที่ ดังนั้น ทั้ง 11 หน่วยปฏิบัติการฯ ทั่วประเทศ จึงขอติดตามสภาพอากาศระหว่างวัน ร่วมกับวิเคราะห์ผลการรายงานสภาพอากาศจากประชาชนและอาสาสมัครฝนหลวงในพื้นที่เพื่อประกอบการตัดสินใจ

11 หน่วยพร้อมทำฝนหลวงทันทีที่อากาศเอื้ออำนวย

หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทันทีทั้งนี้ พี่น้องประชาชน เกษตรกร สามารถแจ้งการขอรับบริการฝนหลวงได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทุกภูมิภาคของประเทศ และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทางเว็บไซต์/เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร