ศาลสั่งลุยยึดทรัพย์คดีข้าวจีทูจีชดใช้ 2 หมื่นล้านพ่วงดอกเบี้ย

22 ก.พ. 2563 | 06:50 น.

สำนักงานอัยการสูงสุด แต่งตั้งผู้ร้อง “คต.-อคส.-อ.ต.ก.-ก.พาณิชย์-ก.การคลัง” เป็นเจ้าหน้าที่บังคับคดีให้ดำเนินการอายัด-ยึดทรัพย์เรียกค่าเสียหายข้าวจีทูจี 2 หมื่นล้านพ่วงดอกเบี้ย

ศาลสั่งลุยยึดทรัพย์คดีข้าวจีทูจีชดใช้ 2 หมื่นล้านพ่วงดอกเบี้ย

แหล่งข่าวฝ่ายผู้ร้องคดีข้าวจีทูจี เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ตามหนังสือที่อ้างถึงสำนักงานคดีแพ่ง สำนักงานอัยการสูงสุด ได้แจ้งผลคดีชั้นอุทธรณ์ คดีอาญาหมายเลขดำที่ อม.25/2558,อม.1/2559 หมายเลขแดงที่ อม.178/2560,อม.179/2560 ระหว่างอัยการสูงสุดโจทย์  ส่วนผู้ร้องได้แก่ กรมการค้าต่างประเทศที่ 1 องค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่ 2 องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ที่3 กระทรวงพาณิชย์ที่4 กระทรวงการคลังที่ 5  นายภูมิ สาระผลที่ 1 กับพวกรวม 28 คน จำเลย เรื่องเรียกให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน มาให้ในคดีข้าวจีทูจีชดใช้ 2 หมื่นล้านพ่วงดอกเบี้ย ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563

ศาลสั่งลุยยึดทรัพย์คดีข้าวจีทูจีชดใช้ 2 หมื่นล้านพ่วงดอกเบี้ย

บัดนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ดำเนินการอายัดและยึดทรัพย์ของจำเลยที่ 7 ถึงที่ 9 จำเลยที่11 ถึงที่ 15 จำเลยที่ 17 ถึงที่18 และจำเลยที่20 ถึงที่ 28 ออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษา

ศาลสั่งลุยยึดทรัพย์คดีข้าวจีทูจีชดใช้ 2 หมื่นล้านพ่วงดอกเบี้ย

หากโจทย์ทั้ง 5 ไม่ได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาก็ขอให้จัดหน้าที่สืบหาทรัพย์ของจำเลยที่7 ถึงที่ 9 จำเลยที่11 ถึงที่15 จำเลยที่17 ถึงที่ 18  และจำเลยที่ 20 ถึงที่ 28 ว่ามีทรัพย์สินอะไร อยู่ที่ใด แล้วลงนามในหนังสือมอบอำนาจยึดทรัพย์ จึงมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ของกรมการค้าต่างประเทศ  องค์การคลังสินค้า องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง นำเจ้าพนักงานบังคับคดีกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ไปดำเนินการยึดทรัพย์ของจำเลยที่7 ถึงที่ 9 จำเลยที่11 ถึงที่15 จำเลยที่17 ถึงที่18 และจำเลยที่20 ถึงที่ 28 ออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป

ศาลสั่งลุยยึดทรัพย์คดีข้าวจีทูจีชดใช้ 2 หมื่นล้านพ่วงดอกเบี้ย

แม้คดีจะอยู่ในชั้นบังคับคดีแต่จำเลยที่7 ถึงที่ 9 จำเลยที่11 ถึงที่15 จำเลยที่17 ถึงที่18 และจำเลยที่20 ถึงที่28 ก็อาจถูกฟ้องล้มละลายหรือฟื้นฟูกิจการได้ ดังนั้นจึงให้โจทย์ทั้ง 5 ยังต้องตรวจสอบสถานภาพของจำเลยที่ 7 ถึงที่ 9 จำเลยที่11 ถึงที่15 จำเลยที่17 ถึงที่18 และจำเลยที่20 ถึงที่28 ตลอดไปจนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาการบังคับคดีด้วย

ศาลสั่งลุยยึดทรัพย์คดีข้าวจีทูจีชดใช้ 2 หมื่นล้านพ่วงดอกเบี้ย

อนึ่ง ตามคำพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำเลยที่7  (นายสมคิด เอื้อนสุภา) จำเลยที่8 (นายรัฐนิธ โสจิระกุล) จำเลยที่ 9 (นายลิตร พอใจ) จำเลยที่11   ( นางสาวรัตนา แซ่เฮ้ง) จำเลยที่12 (นางสาวเรืองวัน เลิศศลารักษ์)

ศาลสั่งลุยยึดทรัพย์คดีข้าวจีทูจีชดใช้ 2 หมื่นล้านพ่วงดอกเบี้ย

จำเลยที่13 (นางสาวสุทธิดา หรือสุธิดา ผลดีหรือจันทะเอ) จำเลยที่14 (นายอภิชาต หรือเสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร) จำเลยที่15 (นายนิมล หรือโจ รักดี) จำเลยที่17(นางสาวสุนีย์ จันทร์สกุลพร)  จำเลยที่18 (นายกฤษณะ สุรมนต์) จำเลยที่20 (บริษัทกีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด หรือบริษัท สิราลัย จำกัด

ศาลสั่งลุยยึดทรัพย์คดีข้าวจีทูจีชดใช้ 2 หมื่นล้านพ่วงดอกเบี้ย

จำเลยที่21 (นางสาวธันยพรหรือบงกร จันทร์สกุลพร) จำเลยที่ 22 (ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีกิจทวียโสธร) จำเลยที่23 (นายทวี อาจสมรรถ) และ จำเลยที่24 (บริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด) จำเลยที่25 (บริษัท เค.เอ็ม.ซี.อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด ) จำเลยที่26 (นายปกรณ์ ลีศิริกุล) จำเลยที่27 (บริษัทเจียเม้ง จำกัด) จำเลยที่28 (นางประพิศ มานะธัญญา)