นายสุทัศน์ นุชปาน ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพัทยา เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ถึง วิกฤติน้ำในเมืองพัทยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออก หลังจากที่ปริมาณน้ำใน 5 อ่างเก็บน้ำหลักในเมืองพัทยามีปริมาณลดลงต่อเนื่อง โดยอ่างเก็บน้ำมาบประชัน , อ่างเก็บน้ำห้วยชากนอก ,อ่างเก็บน้ำหนองกลางดง ,อ่างเก็บน้ำห้วยสะพาน และอ่างเก็บน้ำห้วยขุนจิต ทั้ง 5 แห่งมีความจุน้ำรวมกันที่ 40 ล้านลบ.ม. แต่เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 เหลือปริมาณน้ำทั้ง 5 แห่งเหลือเพียง 8.834 ล้านลบ.ม. โดยเฉพาะที่อ่างเก็บน้ำมาบประชันเป็นหนึ่งใน 5 อ่างหลัก จากที่มีความจุอ่าง 16.6 ล้านลบ.ม. ตอนนี้เหลือปริมาณน้ำที่ 2.963 ล้านลบ.ม.หรือมีปริมาณน้ำไม่ถึง 3 ล้านลบม. โดยปัจจุบันการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพัทยาติดมาตรน้ำทั่วเมืองพัทยาจำนวน 94,000 เครื่อง หรือประมาณ 250,000 ครัวเรือน
สุทัศน์ นุชปาน
นายสุทัศน์ กล่าวว่า ตอนนี้ต้องดึงน้ำมาจากแหล่งน้ำในจังหวัดระยอง จากอ่างเก็บน้ำประแสร์ ผันน้ำมายังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และมายังโรงกรองน้ำเมืองพัทยา จำนวน 110,000 ลบ.มต่อวัน และต้องผันน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำบางพระ ที่จังหวัดชลบุรีมาที่เมืองพัทยา จำนวน 10,000 ลบ.ม.ต่อวัน และผันมาจาก 5 อ่างเก็บน้ำหลักมาจำนวน 70,000 ลบ.ม.ในช่วงแล้งนี้ นอกจากนี้ยังต้องซื้อน้ำบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด(มหาชน) หรืออีสต์ วอเตอร์ อีกจำนวน 23,000 ลบม.ต่อวัน
สำหรับการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพัทยา ตามปกติจะผลิตน้ำต่อวันที่ 264,000 ลบม.ต่อวัน ปัจจุบันลดการผลิตน้ำลงมาเหลือ 251,000 ลบ.ม.ต่อวัน บริหารน้ำใช้ให้เพียงพอรองรับ 3 กลุ่มผู้บริโภค ตั้งแต่กลุ่มที่อยู่อาศัยจะใช้น้ำสัดส่วน 41% กลุ่มร้านค้าขนาดเล็ก เช่น ร้านอาหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี และภาคราชการ จะใช้น้ำในสัดส่วน 16% และกลุ่มร้านค้าขนาดใหญ่ และธุรกิจโรงแรม มีสัดส่วนการใช้น้ำ 43%
ส่วนแผนรับมือในการแก้ปัญหา วิกฤติน้ำ ไล่ตั้งแต่การผันน้ำต่อวัน โดยประสานไปยังกรมชลประทานเพื่อขอใช้น้ำดิบจากแหล่งน้ำของกรมชลประทานที่อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี และโดยเฉพาะที่อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จังหวัดระยองนำมาผลิตเป็นน้ำประปา จากเดิมเคยผันมาที่ 60,000 ลบ.ม.ต่อวัน ก็เพิ่มเป็น 100,000ลบ.ม.ต่อวัน ผันมาผลิตน้ำประปาที่การประปาส่วนภูมิภาคสาขาพัทยาโดยตรง รวมถึงหาแหล่งน้ำจากชาวบ้านสำรองไว้อีกประมาณ 4 แห่ง มีปริมาณน้ำรวมทั้งสิ้น 2 ล้านลบ.ม.ที่ขณะนี้กำลังเจรจาขอใช้แหล่งน้ำจากชาวบ้านในพื้นที่อำเภอศรีราชา และในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ยังมีการลดแรงดันน้ำเพื่อป้องกันท่อแตกเพื่อลดการสูญเสียน้ำที่ไม่จำเป็น และรณรงค์ใช้น้ำอย่างประหยัด รวมถึงติดตั้งระบบรีไซด์เคิลน้ำที่โรงกรองน้ำทั้ง 4 แห่ง