ผวาจีน ลดนำเข้าทุเรียน หายวับ1.2 หมื่นล.

20 ก.พ. 2563 | 06:30 น.

3 ปัจจัยพ่นพิษ ส่งออกทุเรียนไปจีนส่อสูญ 6,000-12,000 ล้าน ม.หอการค้าไทย- ผู้ส่งออกจี้รัฐเร่งหาตลาดใหม่ ห่วงจีนลดนำเข้า ผลผลิตล้นตลาดราคาตก ทำชาวสวนนํ้าตาร่วง

 

ปี 2562 ไทยส่งออกทุเรียนสดมูลค่ารวม 45,486 ล้านบาท ในจำนวนนี้ส่งออกไปตลาดจีนอันดับ 1 มูลค่า 26,346 ล้านบาท สัดส่วน 58% ของการส่งออกในภาพรวม ในปี 2563 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) คาดผลผลิตทุเรียนทั่วประเทศจะมีประมาณ 1.16 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีผลผลิต 1.01 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 15% เนื่องจากในทุกภาคของประเทศมีเนื้อที่ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น(จาก 7.26 แสนไร่ในปี 2562 เป็น 7.54 แสนไร่ในปี 2563) ซึ่งผลผลิตจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดในเดือนมีนาคม แต่ข่าวร้ายคือการส่งออกทุเรียนไปตลาดจีนมีแนวโน้มจะลดลงอย่างมากในปีนี้

ผวาจีน  ลดนำเข้าทุเรียน  หายวับ1.2 หมื่นล.

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปี 2562 ไทยส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ 655,346 ตัน ในจำนวนนี้ส่งออกไปจีนปริมาณ 375,299 ตัน (สัดส่วน 58%) ไปเวียดนาม 164,526 ตัน (สัดส่วน 25%) ไปฮ่องกง 101,348 ตัน (สัดส่วน 15%) ที่เหลือเป็นตลาดอื่น ๆ ทั้งนี้ภายใต้สถานการณ์ไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ที่ยังแพร่ระบาดในจีนจะกระทบการส่งออกทุเรียนไทยในตลาดจีนมากน้อยเพียงใดนั้น

จากการวิเคราะห์โดยใช้กรอบผลกระทบจากโรคซาร์ส ในปี 2546 ที่เกิดในช่วงปลายปีก่อนหน้าเช่นเดียวกับไวรัสโคโรนา พบว่าเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบหนักในช่วงไตรมาสที่ 1 กับไตรมาสที่ 2 ของปี 2546 และพบว่าระหว่างไตรมาสที่ 1 กับไตรมาสที่ 2 อัตราการขยายตัวของมูลค่าการค้าปลีกจีนลดลง 4% อัตราการขยายตัวผลผลิตอุตสาหกรรมลดลง 3% และอัตราการขยายตัวการนำเข้าสินค้าของจีนลดลงถึง 20%

ผวาจีน  ลดนำเข้าทุเรียน  หายวับ1.2 หมื่นล.

“หากใช้ฐานการคิดจากผลกระทบโรคซาร์สในปี 2546 ในเบื้องต้นคาดจะส่งผลกระทบปริมาณการส่งออกทุเรียนทั้งปีนี้ของไทยในตลาดจีนและฮ่องกง จะลดลง 5 หมื่น-1 แสนตัน มูลค่า 6,000-12,000 ล้านบาท โดยช่วงเดือนที่มีความเสี่ยงจะอยู่ในไตรมาสที่ 2 โดยจะกระทบการส่งออกในเดือนเมษายนที่ปกติจะเป็นเดือนที่จีนมีการนำเข้าทุเรียนจากไทยมากสุดในรอบปีประมาณ 1 แสนตัน ตามด้วยเดือนพฤษภาคมที่นำเข้า 4 หมื่นตัน”

สรุปปัจจัยเสี่ยงทุเรียนไทยปี 2563 ได้แก่

1. ผลกระทบไวรัสโคโรนาที่จะส่งผลให้ชาวจีนลดการจับจ่ายใช้สอย และลดการบริโภค

2. ปัจจุบันการส่งออกผลไม้ไทยไปจีนต้องขึ้นทะเบียน GAP ระหว่างไทยกับจีน ครอบคลุมสินค้าผลไม้ 5 รายการ ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลำไย และลิ้นจี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่กรมวิชาการเกษตรที่มีหน้าที่หลักในการลงทะเบียนและตรวจสอบมาตรฐาน GAP ของประเทศได้ถูกตัดงบไปครึ่งหนึ่ง คาดจะกระทบต่อการทำมาตรฐาน GAP ของประเทศแน่นอน และ

ผวาจีน  ลดนำเข้าทุเรียน  หายวับ1.2 หมื่นล.

3. ภัยแล้งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยคุกคามผลผลิตทุเรียนในปีนี้ที่อาจลดลง ดังนั้นแนวทางในการปรับตัวของทุเรียนไทยคือต้องเร่งทำตลาดไปยังตลาดที่มีโอกาส เช่น ทุเรียนแช่แข็งไปสหรัฐฯ จีน ออสเตรเลีย แคนาดา และทุเรียนกวนไปรัสเซีย เป็นต้น

นายภาณุวัชร์ ไหมแก้ว นายกสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุดแห่งประทศไทย กล่าวว่า การส่งออกทุเรียนไทยไปจีนน่าเป็นห่วง ขณะนี้จีนมีการสั่งซื้อล่วงหน้าบ้างแล้ว โดยราคาทุเรียนหมอนทองตัดวันที่ 1 มีนาคม 2563 เฉลี่ยที่ 130 บาทต่อกิโลกรัม หากรุ่นต่อไปราคาทุเรียนในจีนลดลงเนื่องจากกำลังซื้อในจีนลดลง และขอลดราคาซื้อจากไทย คงต้องช่วยกันเพื่อให้อยู่รอดทั้ง 2 ฝ่าย

“กรณีเลวร้ายราคาทุเรียนในไทยลดลงจากผลกระทบตลาดจีน เช่น ลดเหลือ 70-80 บาทต่อกิโลกรัม คำถามคือเกษตรกรจะรับได้หรือไม่กระทรวงพาณิชย์ควรเร่งนำผู้ประกอบการและกลุ่มเกษตรกรไปเปิดตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ เช่น อินเดีย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดใหญ่”

หน้า 11  ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,550 วันที่ 20 - 22 กุมภาพันธ์ 2563