"สมคิด”ห่วงเลย์ออฟ งัดมาตรการอุ้มท่องเที่ยว

14 ก.พ. 2563 | 09:16 น.

"สมคิด" หวั่น แรงงานภาคท่องเที่ยวถูกเลิกจ้าง สั่งคลังออกม.ภาษีช่วย พร้อมแพคเกจลดผลกระทบ covid-19 เข้าครม.มี.ค.นี้ ใช้ระยะสั้นแค่ 3 เดือน ผุดไอเดีย ให้คนแก่ท่องเที่ยวในประเทศ ลูกนำค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ ลดดอกเบี้ยบัตรเครดิต หวังลดภาระค่าใช้จ่ายแรงงาน ด้านรมว.คลัง ยัน มาตรการช่วยประคองเศรษฐกิจได้

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อแก้ไขและรองรับผลกระทบจากไวรัส covid-19 ที่มีต่อภาคการท่องเที่ยว ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีความกังวลถึงปัญหาการแพร่ระบาดไวรัส covid -19 ที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อการเลิกจ้างงานของแรงงานภาคการท่องเที่ยว จึงกำชับให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้มาตรการภาษีเข้ามาเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อชะลอการเลิกจ้างงานออกไป รวมถึงหาแนวทางในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ด้วยการให้บุตรหลานสามารถนำรายจ่ายดังกล่าวมาหักลดหย่อนภาษีได้ รวมถึงแนวทางในการเสริมรายได้ให้กับแรงงาน โดยร่วมกับสถานศึกษาในการฝึกอบรมวิชาชีพให้แรงงานสามารถหาอาชีพเสริมให้กับตนเองได้

"สมคิด”ห่วงเลย์ออฟ  งัดมาตรการอุ้มท่องเที่ยว

ขณะเดียวกันยังจะให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยในการผ่อนปรนมาตรการการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวให้มากขึ้น และให้ธนาคารเฉพาะของรัฐที่มีเครือข่ายท้องถิ่นมาร่วมส่งเสริมให้เกิดการอบรม จัดสัมมนา เพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ

เชื่อว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำจะนำไปสู่มาตรการที่ผ่อนคลายผลกระทบที่จะเกิดกับประเทศได้ และหวังว่างบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จะผ่านโดยเร็ว เพื่อนำไปสู่การลงทุนอื่นๆ และถึงแม้ว่ามาตรการที่ออกมาจะไม่สามารถทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไปได้ แต่อย่างน้อยเชื่อว่าจะทำให้เกิดความคึกคักขึ้นมาได้บ้าง ซึ่งหลังจากนี้ทุกหน่วยงานต้องไปคุยกันเพื่อหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อเสนอครม.ต่อไปนายสมคิด กล่าว

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือนมี.ค.นี้ ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเป็นแพ็คเกจใหญ่ เพื่อให้มีผลต่อการประคับประคองเศรษฐกิจในช่วงนี้ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งเชื่อว่ามาตรการที่ออกมาจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม แม้จะยังระบุไม่ได้ว่าจะขยายตัวได้มากน้อยเพียงใด

อย่างไรก็ตามมาตรการที่ออกมาจะเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น ที่ครอบคลุมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือ ตั้งแต่เม.ย.-มิ.ย.นี้เท่านั้น ซึ่งหลักๆ จะดูแลแรงงานภาคการท่องเที่ยว ที่แม้ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการปลดคนงานอย่างมีนัยสำคัญ แต่ต้องมีมาตรการในการรับมือก่อนปัญหาจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการใช้มาตรการภาษีเข้ามาเพิ่มเงินในกระเป๋าให้กับทั้งผู้ประกอบการ และแรงงาน อาทิ การลดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตและค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า เป็นต้น

รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ผ่านโครงการชิมช้อปใช้ 4 ที่จะมีการส่งเสริมให้ไทยเที่ยวไทยมากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับโรงแรมและโฮมสเตย์ต่างๆ ทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป และการกระตุ้นผู้สูงอายุเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น

ข้อเสนอที่จะให้ใช้มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) ของสถาบันการเงินเข้ามาเพิ่มเติมนั้น มีความเป็นไปได้ ซึ่งจะต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องให้ทุกคนไปเวิร์คกันก่อนนายอุตตม กล่าว

สำหรับการการประชุมเพื่อแก้ไขและรองรับผลกระทบจากไวรัส covid-19 ที่มีต่อภาคการท่องเที่ยวนั้น มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก อาทิ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.), ผู้ว่าการธปท., สมาคมธนาคารไทย, สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และภาคเอกชน ซึ่งทุกหน่วยงานพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกันอย่างเต็มที่