ส่งออก เครื่องน็อก 3ปัจจัยรุม

14 ก.พ. 2563 | 03:20 น.

ส่งออกไทยปี 63 ส่อเครื่องน็อก 3 ปัจจัยรุมทุบ “ไวรัสโคโรนา-จีนซื้อสินค้ามะกันเพิ่ม-USMCA มีผลบังคับใช้” สภาหอฯฟันธงตลาดจีน-ตลาดโลกติดลบต่อเนื่อง เปิดโผกลุ่มสินค้าเกษตร-อุตฯดาวร่วง


ส่งออกไทย เครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจออกอาการเครื่องสะดุดมาตั้งแต่ปี 2561 จากเป้าหมายส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ที่ 8% แต่สุดท้ายขยายตัวเพียง 6.9% และปี 2562 ตั้งเป้าขยายตัวที่ 8% และปรับลดระหว่างปีลงเหลือ 3% แต่สรุปทั้งปีติดลบที่ 2.7% ผลกระทบหลักจากสงครามการค้า และเงินบาทแข็งค่า ส่วนปี 2563 เสียงเอกชนส่วนใหญ่ฟันธงปีนี้ส่งออกไทยจะยังติดลบต่อเนื่อง (กราฟิกประกอบ)

3 ปัจจัยซัดกระหนํ่า

นายบัณฑูร วงศ์สีลโชติ รองประธานคณะกรรมการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า คาดการส่งออกไทยไปตลาดโลก และตลาดจีนปี 2563 จะยังติดลบต่อเนื่อง จาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนากระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวจีน ทำให้ความต้องการสินค้าทุกชนิดมีแนวโน้มลดลง ชาวจีนจะระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น สินค้าไทยจะส่งไปจีนน้อยลง เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลแช่แข็ง ผัก ผลไม้ ฯลฯ จากปี 2562 ส่งออกไทยไปจีนมีมูลค่า 9.02 แสนล้านบาท ติดลบ 7.1%

ทั้งนี้หากสถานการณ์ไวรัสโคโรนายังยืดเยื้อเกิน 3 เดือน Goldman Sachs ระบุเศรษฐกิจจีนปีนี้จะขยายตัวเพียง 5% หรือตํ่ากว่า และเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวน้อยกว่า 2%

“แม้เวลานี้ท่าเรือและด่านศุลกากรส่วนใหญ่ในจีนได้กลับมาเปิดทำการแล้ว แต่สินค้าอย่าง
ผลไม้ไทยจะขายได้น้อยลง จากคนจีนไม่ออกมาซื้อสินค้า ส่วนใหญ่ยังอยู่แต่ในบ้าน ดังนั้นความต้องการซื้อของผู้นำเข้าก็จะมีน้อยลงจนกว่าสถานการณ์จะกลับเป็นปกติ นอกจากนี้ โรงงานส่วนใหญ่ในจีนก็ไม่ได้ทำงานเต็มที่ ปัญหาซัพพลายเชนจะทำให้โรงงานในไทยทำงานได้ไม่เต็มที่เช่นกัน ส่งผลให้ผลิตสินค้าได้ลดลง กระทบการส่งออกแน่นอน”

จีนนำเข้าสหรัฐฯเพิ่ม

2. จากการลงนามข้อตกลงทางการค้าระยะแรก (เฟส 1) จีนถูกสหรัฐฯบังคับให้นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น จะมีสินค้าหลายรายการที่ไทยจะเสียโอกาสการส่งออกไปตลาดจีน จากการบิดเบือนกลไกตลาดของสหรัฐฯ เช่น ผลิต ภัณฑ์ปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ ไม้เพื่อการผลิตเฟอร์นิเจอร์ ไก่ เนื้อสุกร เป็นต้น ซึ่งจะต่างจากปี 2562 ที่ไทยได้อานิสงส์จากสงครามทางการค้าสหรัฐฯ-จีน ทำให้ไทยส่งสินค้าไปสหรัฐฯเพิ่มขึ้นถึง 12% แต่อานิสงส์ดังกล่าวจะมีน้อยลงในปีนี้ เนื่องจากสงครามทางการค้าได้พักรบชั่วคราว ผู้นำเข้าในสหรัฐฯ จะกลับมานำเข้าสินค้าจากจีนอีกครั้ง สินค้าไทยที่ส่งออกไปสหรัฐฯเพิ่มขึ้นในปีที่แล้วอย่างเสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีเครื่องประดับ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง ฯลฯ อาจส่งไปสหรัฐฯได้น้อยลง

3. ในปีนี้ข้อตกลงการค้าใหม่ระหว่างสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา หรือ USMCA จะนำมาใช้แทนข้อตกลงเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือนาฟต้าเดิม ภายใต้ความตกลงนี้การผลิตรถยนต์ของ 3 ประเทศสมาชิกต้องใช้ชิ้นส่วนรถยนต์อย่างน้อย 75% จากวัตถุดิบภายในกลุ่ม จึงจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าระหว่างกัน และอย่างน้อย 40% ต้องเกิดจากแรงงานที่ได้ค่าแรงเท่ากับหรือมาก กว่า 16 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อชั่วโมง (หรือมากกว่า 480 บาทต่อชั่วโมง)

ส่งออก  เครื่องน็อก  3ปัจจัยรุม

“จากข้อกำหนดดังกล่าวจะทำให้ชิ้นส่วนรถยนต์ที่ไทยเคยส่งออกไปทั้ง 3 ประเทศมูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านบาทจะลดลง ภาษีรถยนต์สำเร็จรูปที่ส่งเข้าไปขายในสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 5% เป็น 10% หรืออาจมากถึง 25% ตามที่ทรัมป์เคยขู่อียูไว้ ทั้งนี้เพราะข้อกำหนดที่มีในความ
ตกลงจะทำให้รถยนต์ผลิตใน 3 ประเทศมีต้นทุนสูงกว่ารถยนต์ที่ผลิตจากประเทศอื่นๆ ผลกระทบคือการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ของไทยไปนานาประเทศ เช่นอเมริกาเหนือ จีน และญี่ปุ่น กว่า 1 แสนล้านบาทจะได้รับผลกระทบ”

เปิดโผสินค้าดาวร่วง

นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากที่ได้หารือกับสมาคมการค้าหลายสมาคมคาดการส่งออกไทยปี 2563 จะติดลบที่ 1.77% (ณ อัตราแลกเปลี่ยน 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ มาจาก 2 หมวดหลัก คือ 1.สินค้าเกษตรลดลง -0.94% โดยกลุ่มที่จะส่งออกได้ลดลง ได้แก่ ข้าว ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และนํ้าตาล และ 2.สินค้าอุตสาห กรรมลดลง -1.97% สินค้าที่คาดจะส่งออกได้ลดลง ได้แก่ อิเล็ก ทรอนิกส์และชิ้นส่วน ยานยนต์ เม็ดพลาสติก เป็นต้น ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบ อาทิ เงินบาทที่แข็งค่า สถานการณ์ไวรัสโคโรนาในจีน และสงครามการค้าที่ยังยืดเยื้อ

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3548 วันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ 2563