“พาณิชย์” แนะใช้เอฟทีเอ ดันสินค้าท้องถิ่นสู่เวทีโลก

25 ม.ค. 2563 | 04:38 น.

กระทรวงพาณิชย์ จัดสัมมนาสร้างเครือข่ายและขยายตลาดส่งออกด้วยเอฟทีเอ แนะใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ เพิ่มทางเลือกหาตลาดและขยายตลาดส่งออก พร้อมคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพทั่วภูมิภาค 40 ราย ออกบูธ 

“พาณิชย์” แนะใช้เอฟทีเอ ดันสินค้าท้องถิ่นสู่เวทีโลก

นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงาน “สัมมนาสร้างเครือข่ายและขยายตลาดส่งออกด้วยเอฟทีเอ” ว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ที่ได้สั่งการให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งสร้างความตระหนักรู้ เรื่องความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ และการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ให้กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการหาตลาดให้กับสินค้าของไทย 

นอกจากจะจำหน่ายในประเทศแล้วยังสามารถส่งออกไปต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์และช่องทางจากเอฟทีเอได้ด้วย ซึ่งประเทศคู่ค้าของไทยในปัจจุบัน เช่น อาเซียน และจีน เป็นต้น ได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรให้กับสินค้าจากไทยแล้ว ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยทั่วภูมิภาค 40 ราย ที่เคยร่วมโครงการกับกรมฯ และได้รับการคัดเลือกมาร่วมออกบูธในงานนี้ ได้ทดลองและจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ ที่อาจสนใจสั่งสินค้าจำนวนมาก เพื่อนำไปต่อยอดและทำตลาดต่างประเทศด้วยเอฟทีเอ

“พาณิชย์” แนะใช้เอฟทีเอ ดันสินค้าท้องถิ่นสู่เวทีโลก

“หวังว่าผู้เข้าร่วมงานจะสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้จากการสัมมนา รวมถึงโอกาสในการทดลองตลาดและสร้างเครือข่ายจับคู่ธุรกิจ โดยเฉพาะระหว่างผู้ประกอบการไทยจากภูมิภาคต่างๆ และผู้ประกอบการและผู้ส่งออกในกรุงเทพฯ เพื่อให้มีตลาดที่แน่นอน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนในระยะยาวต่อไป” นายทรงศักดิ์ กล่าว
 

“พาณิชย์” แนะใช้เอฟทีเอ ดันสินค้าท้องถิ่นสู่เวทีโลก

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เสริมว่า สำหรับงานครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-28 มกราคม 2563 ประกอบด้วย 4 กิจกรรม หลัก ได้แก่ (1) การเสวนาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้รับทราบถึงประโยชน์ของเอฟทีเอและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ส่งออกด้วยเอฟทีเอ (2) กิจกรรมเปิดคลินิกเอฟทีเอ เพื่อให้คำปรึกษาแก่ผู้สนใจเกี่ยวกับความตกลงเอฟทีเอ (3) การจับคู่ธุรกิจ และ (4) การออกบูธจำหน่ายสินค้าจากผู้ประกอบการทั่วประเทศ 40 ราย ที่กรมฯ คัดเลือกจากเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนที่เคยร่วม“โครงการเพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี” และ “โครงการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สู่ตลาดอาเซียน” ซึ่งกรมฯ จัดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ