“สมคิด”สั่งเร่งเครื่องลงทุนทั้งระบบ งัดมาตรการภาษี-บีโอไอจูงใจ

วันนี้(23ม.ค.63) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการเจรจาการค้าและการลงทุน ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

นายสมคิด เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีการพิจารณามาตรการการลงทุนในส่วนของกระทรวงการคลังที่จะเร่งรัดการลงทุนของภาคเอกชน โดยจะเป็นมาตรการเพิ่มเติมที่ดีกว่ามาตรการที่กระทรวงการคลังมีอยู่คือหักภาษีสำหรับการลงทุนในเครื่องจักรได้ 1.5 เท่า ซึ่งจะเร่งรัดเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในสัปดาห์หน้า  ควบคู่กันคือมาตรการของส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอที่จะมีการออกแพคเกจจูงใจการลงทุนภายในปีนี้เช่นกันซึ่งจะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดบีโอไอก่อน ส่วนรายละเอียดจะยังไม่พูดขอให้ผ่านความเห็นชอบจากครม.ก่อน  แต่ทั้งนี้ในส่วนของมาตรการ 1.5 เท่า ครั้งที่แล้ว มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท

นายสมคิด กล่าวอีกว่า เรื่องที่สองคือเรื่องการเร่งรัดด้านพลังงาน ซึ่งโครงการส่งเสริมการลงทุนของกระทรวงพลังงานในปีนี้มีค่อนข้างมากหลายแสนล้านบาท รวมทั้งการลงทุนในกลุ่มรัฐวิสาหกิจใหญ่ภายใต้กระทรวงพลังงานก็จะมีการเร่งรัดปรับเปลี่ยนแผนงานให้มีการลงทุนเร็วขึ้น เพราะแค่โครงการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็มากกว่า 3 แสนล้านแล้ว รวมถึงการลงทุนโครงการพลังงานไฟฟ้าชุมชนด้วย ทุกอย่างจะเร่งรัดให้เกิดขึ้นเร็ว 

รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนโครงการในกระทรวงคมนาคมซึ่งมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจำนวนมาก ซึ่งปลัดกระทรวงคมนาคมได้รายงานรายละเอียดว่ามีโครงการใดบ้างที่สามารถเร่งรัดได้ ซึ่งจะนำไปหารือกับนายศักดิ์ สยามชิดชอบ รมว.คมนาคม ต่อไปว่าโครงการใดสามารถเร่งรัดได้เร็วจะนำเสนอเข้าครม.ไปก่อน 

“โครงการที่มีความเป็นไปได้ขณะนี้ คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ก็จะดูว่าเป็นไปได้แค่ไหนเพราะเป็นโครงการใหญ่ที่มีมูลค่าสูง และส่วนอื่นๆจะมีการหารือกับรมว.คมนาคมว่ามีอะไรอีกบ้าง”นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวด้วยว่า คาดว่าจะเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกเข้าที่ประชุมครม.ได้ในอีกไม่นาน ซึ่งขณะนี้มีการเสนอวาระมาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.)แล้ว  หากผ่านครม.ก็จะนำไปสู่การประมูลได้

นอกจากนี้ยังมีโครงการลงทุนของEEC  ที่เดินหน้าไปแล้ว 4 โครงการ เหลือศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา(MRO) กับเมืองใหม่เท่านั้น ซึ่ง MRO จะต้องเกิดขึ้นให้ได้ไม่ว่าโดยการบินไทยหรือไม่ก็ตาม เพื่อให้เอกชนมีโอกาสได้ทำด้วย ซึ่งนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะดำเนินการจัดทำร่างทีโออาร์ภายใน 1-2 เดือนนี้แน่นอน 

ส่วนโครงการบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากปีนี้แล้งมาก จึงแจ้งกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและสำนักงบประมาณล่วงหน้าให้คิดเผื่อการจัดสรรงบกับแหล่งน้ำเล็กๆเพื่อรองรับภัยแล้งในอนาคต ส่วนโครงการขนาดใหญ่ก็เป็นเรื่องของโครงการใหญ่ นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส)  คือเรื่องของการประมูล 5G  ซึ่งวันจันทร์ที่ 27 มกราคมนี้ จะไปตรวจเยี่ยมกสทช. เพื่อเร่งรัดการลงทุน โดยเชิญเอกชนมาร่วมทานข้าวด้วยเพื่อให้การลงทุนเกิดขึ้น เพราะไม่ใช่แค่การประมูล แต่ยังมีโครงการลงทุนต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องอีกแสนกว่าล้านบาท 

นายสมคิด กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเจรจาการค้าจะมุ่งในเรื่องของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) กับ ญี่ปุ่น  การเจรจาการค้าเสรี(FTA) ไทย-สหภาพยุโรป(อียู) และการเจรจาการค้ากับฮ่องกง ก็จะเร่งรัด ซึ่งกระทรวงการคลังมีแผนการโร้ดโชว์ไปกับบีโอไอในปีนี้หลายที่แน่นอนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดซีอีโอฟอรั่ม เพื่อเสนอแผนการลงทุนทั้งหมดด้วยเช่นกัน