พนักงานบางจากเฮ!ใครอยู่กลุ่มเสี่ยงฝุ่น PM 2.5ทำงานที่บ้านได้

22 ม.ค. 2563 | 04:51 น.

 

 

บางจากฯห่วงใยร่วมดูแลคนไทยในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เดินหน้าร่วมรณรงค์เลี่ยงปัญหามลพิษ

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบัน บางจากฯรับมือกับปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในอากาศ ที่สะสมเกินค่ามาตรฐาน จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ  โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคนไทย ดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่การดูแลสุขภาพพนักงาน สื่อสารให้ข้อมูลบางจากฯ ให้ความสำคัญกับการสื่อสารให้พนักงานทราบถึงข้อมูลคุณภาพอากาศและแนะนำการดูแลตัวเอง ออกมาตรการและแนวปฏิบัติในสถานการณ์ PM 2.5 และอนุญาตให้พนักงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทำงานที่บ้านได้ รวมถึงจัดให้มีป้ายแสดงคุณภาพอากาศแสดงผลออนไลน์ 2 จุด ที่ด้านหน้าโรงกลั่นน้ำมันบางจาก และบริเวณตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อแสดงผลตรวจวัดคุณภาพอากาศ สื่อสารให้สาธารณชนรับทราบถึงการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโรงกลั่น ว่ามีความปลอดภัยไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมรอบข้างแจกหน้ากาก N95 ป้องกันฝุ่น

พนักงานบางจากเฮ!ใครอยู่กลุ่มเสี่ยงฝุ่น PM 2.5ทำงานที่บ้านได้

ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช

“เมื่อสถานการณ์ PM 2.5 เริ่มรุนแรงขึ้น บริษัทฯ ก็ได้แจกหน้ากาก N95 ให้กับพนักงานทันที และเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารและเพื่อนพนักงานจิตอาสาร่วมกับผู้บริหารจากสำนักงานเขตพระโขนงและเขตบางนา ได้มอบหน้ากาก N95ให้แก่เพื่อนบ้านชุมชนรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก รวม 10 ชุมชน และแฟลตทหาร 1 แห่ง เพื่อแสดงความห่วงใยต่อสุขภาพของเพื่อนบ้านของเรา”

นอกจากนี้ยังได้ปรับคุณภาพน้ำมันดีเซล  โดยตั้งแต่ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2562 ถึง 31 มกราคม 2563 บางจากฯ ได้ปรับคุณภาพ ยกระดับน้ำมันดีเซลทุกชนิดของบางจากให้เป็นมาตรฐาน EURO 5 ที่มีค่าซัลเฟอร์ต่ำกว่า 10 ส่วนในล้านส่วน และค่ากำมะถันลดลงกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับ EURO 4 ซึ่งจะช่วยลดมลภาวะฝุ่นควันและฝุ่น PM 2.5 ได้จัดจำหน่ายผ่านสถานีบริการน้ำมันบางจากในกรุงเทพมหานครในราคาเท่าเดิม

ทั้งนี้ โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงสะอาดตั้งแต่ต้นทาง ทำให้น้ำมันบางจากทุกลิตรที่ได้จากการผลิตมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีการปล่อยมลพิษ อีกทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) และฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint Reduction)จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย

นายชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้บางจากฯ ร่วมปลูกต้นไม้ในพื้นที่ปฏิบัติการช่วยเพิ่มออกซิเจน ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ทำให้สภาพอากาศดีขึ้น ด้วยการจัดกิจกรรมให้พนักงานปลูกต้นไม้ในพื้นที่โรงกลั่นน้ำมันบางจากในเดือนเกิด รวมถึงสนับสนุนการปลูกต้นไม้ในระดับประเทศผ่านโครงการ “แก้วเพาะกล้า” ร่วมกับกรมป่าไม้ เชิญชวนให้ลูกค้านำแก้วเครื่องดื่มอินทนิลย่อยสลายได้ที่บริโภคแล้วมาคืนที่ร้าน เพื่อรวบรวมส่งมอบให้กับกรมป่าไม้นำไปใช้สำหรับเพาะชำต้นกล้าไม้ทดแทนการใช้ถุงพลาสติก ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมและลดปัญหาขยะพลาสติก เหล่านี้ ได้ดำเนินการไปแล้ว และเรายังพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อบรรเทาสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5