ลุยตรวจอ่างเก็บน้ำตะวันออกยันน้ำเพียงพอ

17 ม.ค. 2563 | 09:00 น.

"อลงกรณ์" ลุยตรวจอ่างเก็บน้ำตะวันออกประสานทุกหน่วยงานรณรงค์ประหยัดน้ำ พร้อม สั่งการฝนหลวงเติมน้ำในอ่าง เร่งด่วนรับมือภัยแล้งยันมีน้ำกินน้ำใช้เพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ แน่นอน

ลุยตรวจอ่างเก็บน้ำตะวันออกยันน้ำเพียงพอ

วันที่ 17 มกราคม 2563 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ เผยระหว่างการประชุมมหารือร่วมกับ เจ้าหน้าที่ กรมชลประทาน  และหน่วยงานที่ที่เกี่ยวข้องพบว่า การบริหารจัดการน้ำ ในพื้นที่ ค่อนข้างเป็นไปตามเป้าหมาย  โดยภาพรวมปริมาณที่ใช้การได้ มีเพียงร้อยละ50 จากความจุอ่างจากเดิม ของปีที่ผ่านมามากถึงร้อยละ 89   จึงจำเป็นปรับแผนบริหารการจัดการน้ำอย่างระมัดระวังโดยแบ่งเป็นเป็น 2 ช่วง

ลุยตรวจอ่างเก็บน้ำตะวันออกยันน้ำเพียงพอ

จากเดิมเดือนพฤศจิกายนไปจนนถึงเดือน เมษายน และเดือนพฤษภาคมถึงเดือน กรกฎาคมเพื่อลดความเสี่ยงจากฝนทิ้งช่วง ตามที่กรมมอุตุนิยมวิทยาคาดดารว่าปีนี้  ฝนจะตกน้อยลง จึงต้องมีการปรับแผนการบริหารน้ำแบบ วันต่อวัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา 

ลุยตรวจอ่างเก็บน้ำตะวันออกยันน้ำเพียงพอ

นอกจากนั้นยังสั่งการให้ทางชลประทานในพื้นที่ร่วมรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมโดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม  และการท่องเที่ยว ในพื้นที่จากเดิม ที่วางไว้ที่ร้อยละ10 เป็นร้อยละ15  เพื่อ ให้ มีการประหยัดน้ำมากขึ้น เพราะลดการใช้น้ำพร้อมทั้งเตรียมแผนสำรองเรื่องการผันน้ำ จาก อ่างเป็นน้ำใกล้เคียง เข้าไปเสริมในอ่างเก็นน้ำบางพระหากเเกิดกรณีฉุกเฉินด้วย เนื่องจาก ปริมาณ น้ำในเขือ่นต่างๆทั้ง เขิ่อนป่าสักชลสิทธิ. และพื้นที่ใกล้เคียงไม่สามารถผันน้ำไปช่วยได้เนื่องจาก มีความจำเป็นต้องใช้ ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เช่นเดียวกัน 

ลุยตรวจอ่างเก็บน้ำตะวันออกยันน้ำเพียงพอ

ขณะเดียวกันจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทางกระทรวงเกษตร ฯได้สั่งการให้มีการบูรณาการณ์ทำงานร่วมกันทุกหน่วยงาน โดยล่าสุดสั่งการให้ทางกรมการฝนหลวงและกองบินเกษตรเร่งปฎิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งหมดทันทีหากภาวะอากาศพร้อม ในการปฏิบัติการฝนหลวงึดยคาดว่า สถารการณ์การขาดแคลนน่าจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาะยะยาวได้สั่งการให้มีการเตรียมแผนรองรับกับการบริหารการจัดการน้ำ ในระยะยาว เพื่อรองรับกับกับการขยายตัวในโครงการ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC ในอนาคตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนด้วย 

ลุยตรวจอ่างเก็บน้ำตะวันออกยันน้ำเพียงพอ

“ตอนนี้ผลการดำเนินการ บริหารจัดการน้ำน่าพอใจแต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งให้เตรียมพร้อมในการบริหารจัดการน้ำและตรวจสอบแบบวันต่อวัน เพื่อ รับมือกับสถานการณืภัยแล้งที๋อาจเกิดขึ้นได้เพราะปีนี้ปริมาณน้ำค่อนข้างน้อยกว่าทุกปี. ซึ่งตอนนี้ทเราเร่งให้ฝนหลวงปฎิบัติการเติมน้ำในอ่างแล้วเริ่มมาตั้งแต่วันที่15 มกราคม ที่ผ่านมา และส่งระยะยาวเราต้องมาวางแผนกันเพราะภาคตะวันออกจะมีการขยายตัววเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษเราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนด้วย” นายองลงกรณ์กล่าว 

ลุยตรวจอ่างเก็บน้ำตะวันออกยันน้ำเพียงพอ

ขณะที่นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกว่า ปัจจุบัน(17 ม.ค. 63) สถานการณ์น้ำภาพรวมของภาคตะวันออก อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 7 แห่ง มีปริมาณน้ำรวมประมาณ 671 ล้านลูกบาศก์เมตร(ล้าน ลบ.ม.) หรือคิดเป็นร้อยละ 42 ของความจุอ่างฯ อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 55 แห่ง มีปริมาณน้ำรวมประมาณ 542 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 57 ของความจุอ่างฯ ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 30 – 50 ของลำน้ำ

ลุยตรวจอ่างเก็บน้ำตะวันออกยันน้ำเพียงพอ

ในส่วนของมาตรการรองรับวิกฤติขาดแคลนน้ำในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง ทุกภาคส่วนได้จับมือกันดำเนินการตามมาตรการต่างๆ อาทิ บริษัท EAST WATER ได้ดำเนินการเชื่อมท่อจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ไปลงอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ไปลงอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล เพื่อลดการสูญเสียน้ำ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำเพื่อการเกษตรบริเวณท้ายอ่างฯประแสร์แต่อย่างใด เนื่องจากมีการจัดสรรน้ำไว้อย่างเพียงพอตลอดแล้งนี้แล้ว ด้านการประปาส่วนภูมิภาค ได้ดำเนินการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองหลวง เพื่อมาช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่จังหวัดชลบุรีได้กว่า 10 ล้าน ลบ.ม.

ลุยตรวจอ่างเก็บน้ำตะวันออกยันน้ำเพียงพอ

นอกจากนี้ยังได้จัดหาแหล่งน้ำจากบ่อดินเอกชนเพิ่มเติม สามารถเพิ่มปริมาณน้ำได้กว่า 20 ล้าน ลบ.ม. ด้านสถาบันน้ำและพลังงานเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ร่วมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากการนิคมอุตสาหกรรมลดการใช้น้ำลงร้อยละ 10 ส่วนการแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วนแล้ว กรมชลประทาน ยังได้ดำเนินโครงการผันน้ำจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรีไปยังแหล่งกักเก็บน้ำจังหวัดระยอง

ลุยตรวจอ่างเก็บน้ำตะวันออกยันน้ำเพียงพอ

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออกอย่างเป็นระบบและยั่งยืนด้วยการผันน้ำจากคลองวังโตนด จ.จันทบุรี ไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง  ผ่านท่อส่งน้ำระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 9 เครื่อง อัตราการสูบ 5 ลบ.ม.ต่อวินาที ดำเนินการสูบผันน้ำเฉพาะช่วงฤดูฝน โดยมีระยะเวลาการสูบน้ำ 5 เดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนตุลาคม ปริมาณน้ำประมาณ 70 ล้าน ลบ.ม.

ลุยตรวจอ่างเก็บน้ำตะวันออกยันน้ำเพียงพอ

ทั้งนี้ในส่วนของกรมชลประทาน ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำจากทุกอ่างเก็บน้ำ โดยขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและเป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย และให้มีน้ำเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ต่อเนื่องไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า