40ซีอีโอฟันธง ปีหนูไม่หมู

03 ม.ค. 2563 | 07:40 น.

“ฐานเศรษฐกิจ” สำรวจความคิดเห็นของซีอีโอ 40 องค์กรชั้นนำของประเทศ ในหัวข้อ “ทิศทางประเทศไทย 2020” ที่สะท้อนมุมมองอนาคตประเทศไทย 2020 ให้ภาคธุรกิจและคนไทย ได้เตรียมตัวหรือวางแผนรับมือ มองเศรษฐกิจ2020ไม่ฟื้น

 

มุมมองสำคัญด้านเศรษฐกิจนั้นซีอีโอกว่า 90% มองภาวะเศรษฐกิจปี 63 ภาพรวมแล้วไม่ต่างจากปีนี้ โดยปัญหาสงครามการค้าโลกระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ยังฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย อันเนื่องจากส่งออกลดลง ส่วนปัจจัยฉุดรั้งเศรษฐกิจภายในมีทั้งปัญหาเงินบาทแข็งค่า ปัญหาค่าแรง การใช้จ่ายภาคประชาชน การลงทุนภาคธุรกิจ และการจัดทำงบประมาณปี 63 ที่ล่าช้า ตลอดจนปัญหาการเมืองอึมครึม และภาวะรัฐบาลเสียงปริ่มนํ้า

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่าทิศทางธุรกิจปี 63 นั้นต้องยอมรับว่าท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ธุรกิจไทยจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์โลก เพิ่มศักยภาพการแข่งขันและลดต้นทุนด้วยการนำระบบไอที ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ มาปรับใช้ การค้าขายที่ต้องหันมาออนไลน์มากขึ้น สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมไทยปี 63 ว่าสอดคล้องกับภาวะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ ประธานบริหาร บจก.เอเชียน เพนนินซูล่า คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่าเศรษฐกิจปี 63 น่าจะทรงๆ เพราะทิศทางเศรษฐกิจโลกไม่อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น การบริโภคในประเทศยังชะลอตัว โดยรวมแล้วภาพรวมเศรษฐกิจยังทรงตัว 

40ซีอีโอฟันธง  ปีหนูไม่หมู

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานที่ปรึกษา บจก.เอทีเอ ออลไลค์ กล่าวว่าปี 63 เศรษฐกิจคาดว่าจะยังชะลอตัวต่อเนื่อง จากยังไม่มีปัจจัยบวกอะไรมาทำให้ดีขึ้น เรื่องสงครามการค้าก็ยังเดินหน้าต่อส่วนการเมืองถือว่ายังปริ่มนํ้า พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ก็ยังติดขัด ไม่ง่ายเหมือนช่วงคสช.

เช่นเดียวกับนายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจยังชะลอตัว เนื่องจากชนชั้นกลาง-ล่าง ชะลอบริโภค จับจ่าย ส่งผลกระทบวงกว้างและต้องใช้เวลานานฟื้นฟูเพราะกลุ่มดังกล่าว มีสัดส่วน 70%ของประชากร ขณะที่การปรับขึ้นกระทบและกลายเป็นต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ

ด้านนางชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กล่าวว่า ในปี 2563 ปัจจัย เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ทั้งภายในประเทศ และสงครามการค้า ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ การส่งออก และกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศ ส่วนปัญหาค่าเงินที่ยังแข็งตัวส่งผลกับส่งออก และท่องเที่ยวให้ชะลอตัว หนี้ครัวเรือนยังอยู่ระดับสูงทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคอยู่ในระดับตํ่าเป็นสิ่งที่น่ากังวล

ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่าเศรษฐกิจในประเทศน่าจะมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมา รวมถึงยังมีการเตรียมลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามยังมีความท้าทายจากสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจ, ค่าเงินบาท รวมไปถึงภัยธรรมชาติ

ส่วนนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจในปี 2563 ไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา ดังนั้นรัฐบาลต้องทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าจนเกินไปทำให้เอกชนแข่งขันไม่ได้

นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2020 รัฐบาลควรสนับสนุนเศรษฐกิจ รากหญ้า และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หากฐานรากมั่นคงเศรษฐกิจประเทศไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้า

ด้านนายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบราเดอร์ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าเศรษฐกิจปี 63 น่าจะทรงตัว โดยขณะนี้ยังไม่เห็นปัจจัยบวกจากนโยบายรัฐบาล ซึ่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 63 จะเป็นผลมาจากการลงทุนปรับตัวเพื่อรับมือกับเศรษฐกิจของภาคเอกชน

 

สื่อทีวีหดออนไลน์โต

ส่วนนายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเศรษฐกิจปี 63 อยู่ในภาวะทรงตัว การจับจ่ายใช้สอยผู้บริโภคลดลง การใช้เม็ดเงินโฆษณาสื่อทีวีลดลง แต่มีบางสินค้าที่ใช้เม็ดเงินสร้างภาพลักษณ์ แต่ยังมีโอกาสจากเม็ดเงินโฆษณาสื่อออนไลน์ที่เติบโต

ส่วนนางระริน อุกกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี63 เศรษฐกิจโลกยังไม่แน่นอน เป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้ ขณะที่การเมืองค่อนข้างน่ากังวลว่าจะเกิดเสถียรภาพหรือไม่ แม้เศรษฐกิจจะควบคุมไม่ได้ แต่หากการเมืองมีเสถียร ภาพก็อาจส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจและตลาดต่างๆ ดีขึ้นกว่าปี 62

40ซีอีโอฟันธง  ปีหนูไม่หมู

ขณะที่นายเกษมสันต์ วีระกุล ประธานกรรมการบริษัท และกรรมการอิสระบริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเศรษฐกิจปี 2563 จะหนักกว่านี้ส่วนตัวมองว่า GDP เติบโต 2.6% โดยเศรษฐกิจไทยไม่โตมากกว่านี้ สาเหตุหลักเกิดจากไทยไม่มียุทธศาสตร์ อีกทั้งส่งออกลดลงเพราะไม่มีสินค้าที่โลกต้องการ

ส่วนนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเศรษฐกิจในปี 63 มองว่ายังทรงตัว ขณะที่กำลังซื้อของคนทั่วโลกลดลง จะเห็นกลยุทธ์ราคามากขึ้น โดยผู้บริโภคจะได้รับอานิสงส์จากสินค้าราคาถูกลง

นายภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI กล่าวว่ายุคนี้ต้องยอมรับว่าทำธุรกิจยาก เนื่องจากทุกกลุ่มไม่กล้าใช้เงิน ขณะที่ธุรกิจเอเยนซี่ MI ต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ ไม่มีกฎใดตายตัว ต้องยืดหยุ่นการทำงานมากสุด

 

รถยนต์ตลาดบนไปได้

ขณะที่นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)จำกัด เปิดเผยว่าเราคาดหวังว่าเมื่อเศรษฐกิจมันถึงจุดที่ตํ่าสุดแล้วจะกลับขึ้นมา โดยรวมตลาดรถยนต์จะเป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจไทยด้วยว่าจะเป็นอย่างไร โดยแนวโน้มของตลาดรถยนต์ในปี 2563 น่าจะใกล้เคียงกับปี 2562 ในส่วนของตลาดบนที่มีกำลังซื้ออาจจะยังพอขายได้

นายโมะริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดยังประเมิน ยาก แต่คาดว่าเศรษฐกิจในครึ่งปีแรกน่าจะทรงตัว และรัฐน่าจะมีมาตรการด้านต่างๆและเมกะโปรเจ็กต์ออกมา ทำให้ยอดขายรถในปี 63 น่าจะเทียบเท่ากับปี 62

ด้านนายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2563 ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.8 -3.0% โดยปัจจัยบวกคือท่องเที่ยวที่คาดว่าจะกลับมาคึกคัก รวมไปถึงการเดินหน้าโครงการภาครัฐ รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ,การผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลัง

40ซีอีโอฟันธง  ปีหนูไม่หมู

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่าทิศทางของธุรกิจการบินในปี2563 ก็ยังคงถือว่าเป็นปีที่ยากลำบาก จากการแข่งขันที่รุนแรง การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และเงินบาทที่ยังคงแข็งค่า ส่งผลให้ไทยเสียเปรียบทางการแข่งขันด้านท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด กล่าวว่าปี 63 ภาพรวมไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มจะยากลำบากขึ้น ธุรกิจอยู่ในสภาวะตรึงตัว เพราะปัญหาเศรษฐกิจโลก บาทแข็ง ดังนั้นปีนี้จึงต้องเรียกว่าเป็นปีแห่งการปรับตัว เพื่อให้อยู่ให้ได้ โดยต้องปรับให้เป็นไปตามความต้องการตลาด

 

LTV ส่งผลอสังหาฯชะลอ

ด้านนางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 62 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวต่อเนื่อง มีมูลค่าตลาดฯ ลดลงราว -35% (YoY) โดยลดลงในทุกประเภท เนื่องจากการประกาศใช้นโยบาย LTV ใหม่,หนี้สินภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง และกำลังซื้อของต่างชาติลดลง ปัจจัยเหล่านี้นำไปสู่การปรับลดและเลื่อนเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายราย สำหรับปี 63 มองว่าตลาดที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มทรงตัว

ส่วนนายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเศรษฐกิจปี 63 ไม่ดีกว่าปีนี้ เนื่องจากผลกระทบจากสงครามการค้า เงินบาทแข็ง ทำให้การส่งออกชะลอตัว มีผลต่อความเชื่อมั่นใช้จ่ายของประชาชน

40ซีอีโอฟันธง  ปีหนูไม่หมู

ด้านนายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง บมจ.ศุภาลัย สะท้อนสถานการณ์เศรษฐกิจโลกโดยอ้างอิงจากรายงานของ “บล.เครดิต สวิสฯ” พบยังมีโอกาสเติบโต 2.5% อย่างไรก็ตามอยากให้ดีเวลอปเปอร์มองภาพเป็นบวก แม้แต่เรื่องปัจจัยการเมืองที่หลายคนมองว่าอาจจะรุนแรงขึ้น เปรียบการมองในแง่ร้าย ทำให้กำลังใจเสียและกระทบต่อแผนการทำธุรกิจได้

 

มองต่างมุมเชื่อดีกว่า62

อย่างไรก็ตามมี “ซีอีโอ” ที่มีมุมมองว่าเศรษฐกิจปี 63 ยังมีแนวโน้มหรือโอกาสการเติบโต โดยนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทยและกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าว ว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 63 จะขยายตัว 2.7% โดยปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักมาจากการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน และภาคการท่องเที่ยวที่มีสัญญาณจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาแล้ว

40ซีอีโอฟันธง  ปีหนูไม่หมู

ด้านนางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่ามองว่าเศรษฐกิจในปี 63 จะดีอยู่จากความร่วมมือกันของทุกคนและเชื่อว่ารัฐบาลจะมีมาตรการและวิธีบริหารจัดการ

นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น กล่าวว่าการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ จะส่งผลให้การบริโภคปี 63 ปรับตัวดีขึ้น

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเศรษฐกิจปี 63 มีโอกาสขยายตัว 3.1% ทั้งนี้เป็นผลจากการบริโภคจะขยายตัว 4.0% และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมทั้งมาตรการประกันราคาสินค้าเกษตร และลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 4.1%

ด้านนายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ. ไทรทัน โฮลดิ้ง ( TRITN )กล่าวว่าเศรษฐกิจปี 63 ดีกว่าปี 62 แน่ ซึ่งมาจากนโยบายภาครัฐเริ่มแรงในช่วงโค้งท้ายปีและน่าจะเข้าถึงมือผู้บริโภค

เช่นเดียวกับนายวิชัย เบญจรงคกุล ประธานบริหาร บริษัทยูไนเต็ดอินฟอร์เมชั่นไฮเวย์ จำกัด (UIH) กล่าวว่าเศรษฐกิจหลังไตรมาสแรกปี 63 คาดว่าคงจะปรับตัวดีขึ้น ด้วยโครงการขนาดใหญ่ๆของภาครัฐเริ่มเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการสร้าง ส่วนการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนน่าจะตามมาที่หลังเมื่อเกิดความมั่นใจ

ส่วนนายณัฐนัยอนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเทล กล่าวว่าภาพรวมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลัก จะเป็นตัวขับเคลื่อนตัวเลขเศรษฐกิจ เช่น การลงทุนรองรับรถไฟความเร็วสูง การลงทุนโครงข่ายโทรคมนาคม การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับ 5G จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจในแง่การลงทุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

40ซีอีโอฟันธง  ปีหนูไม่หมู

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 63 น่าดีกว่าปี 62 ภาคการท่องเที่ยวน่าจะดีขึ้น โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยไม่ตํ่ากว่า 40ล้านคน ส่วนการเมืองยังน่ากังวล เรื่องเสถียรภาพของทางการเมือง

40ซีอีโอฟันธง  ปีหนูไม่หมู

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 63 จะขยายตัวได้ดีกว่าปี 62 หลังจากสงครามการค้าสหรัฐฯกับจีนมีทิศทางที่ดีขึ้น จากที่มีการลงนามในเฟสแรก โดยเริ่มเห็นการลงทุนในภาคเอกชนตามมา นอกจากนี้การจับจ่ายใช้สอยเริ่มกลับมาดีขึ้นจากมาตรการของรัฐบาลที่ออกมากระตุ้นและการลดดอกเบี้ยของแบงก์ชาติ

 

 เปิดมุมมองซีอีโอรุ่นใหม่

ขณะที่มุมมองของคนรุ่นใหม่บริษัทเทคโนโลยี และกลุ่มสตาร์ตอัพ เชื่อว่าธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัลโอกาสสดใส โดยนางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2563 ยังคงชะลอตัวการเติบโต โดยคาดว่า GDP จะเหลือ 2.5-2.7% ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น การบริโภคภายในประเทศชะลอตัวลง เช่นเดียวกับการชะลอการลงทุนภาคธุรกิจ ทั้งเสถียรภาพการเมือง ยังมีผลทำให้ต่างชาติชะลอการลงทุน

ด้านนายวุฒินันท์ สังข์อ่อง ซีอีโอ บริษัท ฟาร์ตชิป จำกัด กล่าวว่าภาพรวมเศรษฐกิจ และมองว่าธุรกิจดิจิทัล อี-คอมเมิร์ซ และธุรกิจที่ทรานส์ฟอร์เมชันไปยังดิจิทัล จะอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ และเชื่อว่าจะมีโอกาสทางธุรกิจในยุคเศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล

ส่วนนางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซินเน็ค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาคการเกษตร และเศรษฐกิจรากหญ้ายังไม่ดี โดยการขับเคลื่อนส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนจากภาคเอกชนเป็นหลัก

ขณะที่นายธีระชาติ ก่อตระกูล ซีอีโอ สต็อกเรดาร์ กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจปี 63 ชะลอตัว ค่าบาทแข็ง ทำให้ส่งออกลำบากขึ้น เช่นเดียวกับการลงทุนต่างชาติ ที่น่าห่วงคือการหลั่งไหลเข้ามาของสินค้าจีนที่จะกระทบกับผู้ผลิตไทย

นายชยพล หรรรุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เชื่ออสังหาฯจะดีขึ้น ขณะที่โลกมองธุรกิจอสังหาฯ คือ อุตสาหกรรมไร้พรมแดน เคลื่อนย้ายได้ ไม่ใช่ตลาดของคนโลคัล ฉะนั้น แนวโน้มยังดีในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ

ส่วนนายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด ที่ปรึกษากลยุทธ์และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี กล่าวว่าค่าบาทผันผวนส่งผลกระทบ ทั้งการท่องเที่ยวและการส่งออก อย่างไรก็ตามมองว่าทุกวิกฤตมีโอกาส ที่มองเห็นโอกาสธุรกิจและกล้าลงทุนในช่วงที่คู่แข่งไม่กล้าลงทุน

ด้านนางสาวภรณี วัฒนะโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟินแก๊ส จำกัด กล่าวว่าฟินแก๊สถือเป็นคอนซูเมอร์โปรดักส์เป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานไม่ว่าจะเกิดวิกฤติอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจคนก็ยังจะต้องมีการบริโภคอาหาร ยังไงก็ยังเป็นสิ่งที่ขายได้

ขณะที่นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ บริษัท TARAD.com กล่าวว่าภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ธุรกิจดิจิทัล หรือออนไลน์ เติบโต ธุรกิจออฟไลน์ จะลำบากเนื่องจากกำลังซื้อลดลง แต่ธุรกิจออนไลน์มีต้นทุนตํ่า มีตัวเลขการเติบโตไม่น้อยกว่า 20%

ด้านอุกฤษ อุณหเลขกะ ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัพสายการเกษตร“Ricult” กล่าวว่าเศรษฐกิจปี 63 ไม่ดีกว่าปี 62 โดยจากการสัมผัสเกษตรกรรากหญ้าพบว่ามีรายได้ลดลง ค่าบาทแข็ง ท่องเที่ยวส่งออกชะลอตัว การรับมือนั้นคงมุ่งเน้นระมัดระวังขยายธุรกิจ หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,536 วันที่ 2 - 4 มกราคม พ.ศ. 2563