ลั่น! จ่ายส่วนต่างครบ 5 พืชก่อนสิ้นปี

16 ธ.ค. 2562 | 12:41 น.

“จุรินทร์” ลั่น โอนเงินส่วนต่างประกันรายได้ครบ 5 พืช ก่อนสิ้นปี เป็นของขวัญปีใหม่เกษตรกรทั่วไทย

 

ผู้สื่อข่าวรายงาน (16 ธ.ค.2562) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  ได้ลงพื้นที่ภาคอีสานเพื่อชี้แจงโครงการประกันรายได้  ที่จังหวัดอุบลราชธานี

 

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่มาวันนี้เพื่อรายงานความคืบหน้าหลังจากรัฐบาลได้แถลงนโยบาย เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 โดยประกาศประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

ลั่น! จ่ายส่วนต่างครบ 5 พืชก่อนสิ้นปี

 

โดยผ่านมา 4 เดือนกว่าการจ่ายเงินชดเชยประกันรายได้ทำได้เกือบ 5 ตัว ที่จ่ายแล้วได้แก่ ข้าว มัน ยาง ปาล์ม มาถึงวันนี้จ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกแล้ว เหลือข้าวโพดจะจ่าย 20 ธันวาคม นี้ ถ้าผ่าน 20 ธันวาคม 2562 ก็ถือว่าทำได้ครบทั้ง 5 ตัวซึ่งถือว่า "ทำได้ไว ทำได้จริง"

 

สำหรับการประกันรายได้ข้าว  จ่ายส่วนต่างงวดแรกเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562  โดยเงินส่วนต่างคือ หัวใจนโยบายประกันรายได้ เป็นหลักประกันว่าพืชเกษตรจะไม่มีรายได้ตามยถากรมม คือรายได้ตามราคาผลตลิตตามตลาดหลัก ถ้าตลาดไม่ดีก็จะได้ราคาไม่ดีตามตลาด ถ้าผลผลิตไม่มีคุณภาพก็จะถูกกดราคา

 

ทั้งนี้ก่อนมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรจะมีรายได้ตามราคาตลาดเป็นหลัก แต่เมื่อมีนโยบายประกันรายได้แล้วเกษตรกรจะมีรายได้สองทาง เช่นประกันรายได้ 15,000  หากขายได้ 13,000 ก็จะมีส่วนต่าง 2,000 เหมือนกระเป๋าซ้าย 13,000 กระเป๋าขวา 2,000 รวม 15,000 ทำให้มีรายได้เพิ่มมา เพื่อเพียงพอกับการยังชีพ

 

ลั่น! จ่ายส่วนต่างครบ 5 พืชก่อนสิ้นปี

"ปีนี้ปลูกข้าวหอมมะลิดีแล้ว ราคาดี ทั้งในและต่างประเทศท่านควรปลูก ที่ผ่านมาราคาข้าวเปลือกหอมมะลิราคาสูงกว่า 15,000 บาทต่อตัน สูงกว่าราคาประกันทำให้ท่านเลยไม่ได้ส่วนต่าง แต่ท่านเข้าใจผิดความจริงท่านไม่ขาด ซึ่งท่านได้สองกระเป๋าซึ่งสูงกว่าราคาประกันรายได้" นายจุรินทร์ กล่าว

 

สำหรับงวดถัดไปข้าวหอมมะลิภาคอีสาน และข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ราคาอ่อนตัวลงแล้ว เกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่าง 500 กว่าบาทต่อ ตัน ส่วนข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 400 กว่าบาทต่อตัน การช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุง ที่ผ่านมาให้จ่ายค่าต้นทุนสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ 23,000 รายที่ยังไม่ได้ ไร่ละ 500 บาทไม่เกิน 20 ไร่ ค่าปรับปรุงและเก็บเกี่ยวก็จะได้ตันละ 500 บาทไม่เกิน 20 ไร่ ที่คณะรัฐมตรี(ครม.)เห็นชอบ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 62

 

สำหรับปาล์มน้ำมัน ประกันรายได้กิโลกรัมละ  4 บาท พร้อมสกัดการลักลอบการนำเข้าทำ และนำไปผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลบี 10 เพื่อเพิ่มการใช้น้ำมันปาล์ม ล่าสุดราคาปาล์มน้ำมันได้ขยับจาก 2.20-2.40 บาทต่อ กก.ขระนี้ขึ้นไป 4 บาทกว่าต่อ กก.แล้ว ล่าลุดไปแถวจังหวัดหนองคายขึ้นไปถึง 4.80 บาทต่อ กก. สูงกว่าราคาประกันรายได้ แต่หากวันใดราคาปาล์มตกต่ำไม่ถึง 4 บาทต่อกก.ก็ไม่ต้องกังวล จะได้รับเงินส่วนต่างชดเชย

ลั่น! จ่ายส่วนต่างครบ 5 พืชก่อนสิ้นปี

กรณีมันสำปะหลัง  ประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท  เกษตรกรมันสำปะหลังก็ได้รับเงินส่วนต่างไป 

 

ยางพารา ประกันรายได้ 3 ชนิด ได้แก่ บางแผ่นดิบชั้น3 กก.ละ 60 บาท น้ำยาง 57 บาทต่อ กก. และยางก้อนถ้วย กก. ละ 23 บาท วันนี้ท่านขายได้ 20 บาทจะได้ส่วนต่าง 3 บาททันที จำนวนกิโลกรัมคูณ 3 บาท โอนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) แต่ปัญหายางฯก่อนโอนเงินถ้ามาขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย(กยท.)ร่วมกับคณะกรรมการจังหวัด ไปตรวจพื้นที่ และชนิดของยางเนื่องจากชนิดของยาได้ส่วนต่างไม่เท่ากัน กว่า กยท. จะไปตรวจสวน งวดเเรก 1 พฤศจิกายน 2562 ยังตรวจสวนไม่ครบ บางรายยังไม่ได้เงิน แต่ยืนยันว่าเกษตรกรทุกรายจะได้รับเงิน แต่ที่ช้าเพราะต้องใช้เวลาตรวจสวน ต่อไปนี้ให้ชาวสวนยางมีสวนกี่ไร่ทำยางชนิดใด ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านรับรอง ถ้าเจ้าของสวนหรือกำนันผู้ใหญ่บ้านแจ้งเท็จก็จะเป็นผู้รับผิดชอบ ถัดจากนี้จะทำให้ตรวจสวนได้เร็วขึ้น คือ งวด 2 วันที่ 1 มกราคม 63 ไม่รอตรวจสวน งวด 3 จ่ายวันที่  1 มีนาคม 2563 ซึ่งงวด 2 และ 3 ไม่ต้องตรวจสวน จะเร็วขึ้น ส่วนกรณีสวนยางไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน แต่ขึ้นทะเบียนการปลูกไว้เป็นผู้ถือบัตรสีชมพู แค่ขึ้นทะเบียนตามจริงก็จะได้เงินส่วนต่างประกันรายได้

ลั่น! จ่ายส่วนต่างครบ 5 พืชก่อนสิ้นปี

ส่วนข้าวโพด  มติวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 นำเข้าครม.เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 อนุมัติประกันรายได้ที่ 8.50 บาทต่อ กก. วันที่ 20 ธันวาคมนี้จะโอนเงินส่วนต่างงวดแรกเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับเกษตรทั่วประเทศ