นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ปี 2563 กนอ. ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนานิคมอุตสาหกรรม และสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างครบวงจร โดยมุ่งให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตของภูมิภาคอาเซียน จึงต้องเร่งเสริมสร้างศักยภาพนิคมอุตสาหกรรมไทยให้แข็งแกร่ง สามารถแข่งขัน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้ประเทศได้ในอนาคต สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ในการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ โดยมีหลักการสำคัญคือ การยกระดับประสิทธิภาพของนิคมอุตสาหกรรมในปัจจุบัน และการนำนวัตกรรมที่เหมาะสมในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม และการให้บริการที่สามารถแข่งขันได้ในอนาคต มาใช้กับทุกภาคส่วนขององค์กร ภายใต้วิสัยทัศน์ ผู้นำการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมครบวงจรในระดับภูมิภาคด้วยนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน และปรัชญาองค์กร I : Integrity ยึดมั่นในเกียรติยศ และศักดิ์ศรี - ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ลูกค้า และองค์กร EA : Excellence-Achievement มุ่งสู่ความสำเร็จที่เป็นเลิศ มีความเป็นมืออาชีพ บริการที่เป็นเลิศ โดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน และ T : Tributary ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมโดยรวมมีการแบ่งปันเกื้อกูล และเอื้ออาทรในการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนกับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
“สำหรับการขับเคลื่อนภารกิจขององค์กรในอนาคตนั้น กนอ.จะใช้ยุทธศาสตร์ 5G+, Growth /Green /Great /Good Governance /Global Competitiveness และ Innovation ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิรูปกระบวนการทำงานขององค์กรด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร ได้แก่ SMART Eco เพื่อเสริมสร้างทีมงานให้มีความเชี่ยวชาญ ก้าวสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัล สามารถทำงานในรูปแบบใหม่ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง และร่วมกันพลิกโฉมองค์กรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้เป็นอย่างดี”
ทั้งนี้ ปัจจุบัน กนอ. ได้ดำเนินการพัฒนาจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม แล้ว 59 แห่ง ใน 16 จังหวัดทั่วประเทศแบ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ. ดำเนินการเอง 13 แห่ง และนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.ร่วมดำเนินงานกับเอกชนอีก 46 แห่ง รวมถึงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด คิดเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมรวมทั้งสิ้น 175,939 ไร่ มูลค่าการลงทุนสะสมประมาณ 3.9 ล้านล้านบาท และมีการจ้างงานในนิคมอุตสาหกรรมประมาณ 499,000 คน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานที่มุ่งมั่น เพื่อเป็นองค์กรชั้นนำด้านธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กนอ. ยังตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน และเล็งเห็นว่าการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในอนาคต จำเป็นต้องมีความสอดคล้องกับกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐาน มุ่งสู่เป้าหมายการเปลี่ยนแปลง เพื่อการก้าวสู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมต่อไปในอนาคตอีกด้วย
“ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของทั้งองค์กร และพนักงาน เราเชื่อมั่นว่า กนอ.จะสามารถช่วยสร้างความมั่นคง และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศได้ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน และสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจของประเทศ และ กนอ. จะยังมุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความสุข ดังปณิธานของ กนอ. ที่มุ่งมั่นทำมาตลอดระยะเวลา 47 ปี”
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และประธานกรรมการ กนอ. กล่าวว่า กนอ. เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศ โดยการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมพร้อมให้บริการระบบสาธารณูปโภคที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลอย่างประสบความสำเร็จ ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้บริหารและพนักงานในองค์กร โดย กนอ. เป็นองค์กรชั้นนำในการจัดตั้งพัฒนาอุตสาหกรรม รวมทั้งดูแลสิ่งแวดล้อม และสังคม ให้อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน