“MILLCON” ตอกย้ำผู้นำนวัตกรรมกลุ่มเหล็ก

มิลล์คอน สตีล ตอกย้ำ แนวคิด “TRANSFORMILLCON” รุกคืบนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เต็มสูบ  

นางสาวสุรีรัตน์ ลีสวัสดิ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานนวัตกรรมธุรกิจ  บริษัท  มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยวถึง กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท มิลล์คอน สตีล ภายใต้แนวคิด “TRANSFORMILLCON”

สามารถตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากการแข่งขันที่มีความรุนแรงมากขึ้นแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีและนวัตกรรมก็ล้วนแต่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจ

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจจากแบบเดิม ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการทำงานทุกส่วน (Smart Process)  ทำให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพและได้ประสิทธิผลมากขึ้น อีกทั้งเป็นการพัฒนาองค์กรให้ทันยุคสมัย สามารถปรับตัวให้รองรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตและก้าวสู่วัยทำงานในอนาคตได้ ตามแนวคิด Think Beyond Steel 

นางสาวสุรีรัตน์ กล่าวต่อว่า การ Transform ของกลุ่มบริษัทฯ นับเป็นการปรับโครงสร้างของธุรกิจให้มีคล่องตัวและสามารถต่อยอดธุรกิจหลักได้ ประการหนึ่งในการที่จะ Transform ให้ประสบความสำเร็จนั้น คือบุคลากร การปรับ MIND-SET ของบุคลากรนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะบุคลากร Gen X ให้กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี สามารถปรับตัวและเปิดใจรับแนวความคิดของคนรุ่นใหม่

สุรีรัตน์ ลีสวัสดิ์ตระกูล

กลุ่มบริษัท มิลล์คอน สตีล ได้มุ่งพัฒนา 3 ธุรกิจหลัก คือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (Construction Materials) ที่เป็นผลิตภัณฑ์ดั้งเดิม เช่น เหล็กเส้นกลม เหล็กข้ออ้อย เหล็กรูปพรรณ ฯ ต่อมาบริษัทฯได้มองเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ จึงได้ตัดสินใจลงทุนเพิ่มในกลุ่มของเหล็กเกรดพิเศษ (Special Steel) ทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าและคุณภาพของผลิตภัณฑ์เหล็กจนถึงระดับ High Quality Steel ได้ 

กลุ่มสุดท้ายคือ Beyond  Steel เป็นการลงทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจหลักทั้ง 2 โดยการลงทุนจะเน้นใน 3 กลุ่มเทคโนโลยี คือ  Logistics Technology, Construction Technology, Factory Technology  และ Renewable Energyโดยการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในยุคดิจิทัล

“สิ่งสำคัญในการ Transform คือ การเข้าใจ เข้าถึง และเรียนรู้ที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในทุกกระบวนการทำงานตั้งแต่ระบบ Back Office โดยการนำระบบ SAP เข้ามาบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจร พร้อมต่อยอดระบบ BI ที่ทำให้การเข้าถึงข้อมูลธุรกิจและทำการวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ หรือการใช้ระบบ Automation ในขั้นตอนการผลิต ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อคเชน (Blockchain) แบบ Multi-tier supply chain เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อ-ขาย ประหยัดเวลา และมีความปลอดภัยมากขึ้น บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในกลุ่มอุตสาหกรรมในอนาคต” นางสาวสุรีรัตน์ กล่าว