ส่งออกข้าวไทยระส่ำ ปี63 คงเป้า 8 ล้านตัน

07 ธ.ค. 2562 | 10:20 น.

สมาคมส่งออกข้าวไทย เผยปี 63 ยังไร้ปัจจัยบวก ลุ้นอินโดฯ หวนคืนกลับซื้อข้าว บาทอ่อนค่าลง เร่งฟื้นสัมพันธ์คู่ค้าเก่าหวังออเดอร์เพิ่ม ขณะรัฐบาลจีนยันปีหน้ายังระบายสต๊อกเก่าต่อเนื่อง ไล่บี้ขายกระจุย “ ไทย-อินเดีย” ยอดขายวูบ

ส่งออกข้าวไทยระส่ำ ปี63 คงเป้า 8 ล้านตัน

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวไทยในปี 2563 ว่า ประเมินวันนี้ยังไม่มีอะไรเด่นชัด ยกเว้นค่าเงินบาทอาจจะดีขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ส่งสัญญาณว่า เงินบาทจะอ่อนค่าลง แต่ว่าจะอ่อนลงได้แค่ไหน ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยในเรื่องของการส่งออก อีกด้านหนึ่งก็หวังว่าอินโดนีเซียจะกลับมาซื้อข้าว จากปีนี้ไม่มีการซื้อข้าวเลย หากกลับมาซื้อข้าวก็จะเป็นปัจจัยที่ดีต่อการส่งออกข้าวไทย

ส่งออกข้าวไทยระส่ำ ปี63 คงเป้า 8 ล้านตัน

ส่วนจีนสต๊อกก็ยังมีมาก คาดการณ์ว่าปีนี้น่าจะส่งออกเกิน 3 ล้านตัน ล่าสุดทางสมาคมฯ ได้ร่วมคณะเดินทางไปกับกรมการค้าต่างประเทศ ทางคอฟโก้(รัฐวิสาหกิจดูแลการนำเข้าข้าวของจีน)ได้แจ้งว่าจีนยังคงที่จะส่งออกต่อเนื่อง เพราะสต๊อกมีมาก เหมือนกับรัฐบาลไทยใน 5-6 ปีที่ผ่านมาที่มีการขายสต๊อกข้าวเก่า ดังนั้นจีนคาดว่าจีนจะยังคงส่งออกต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวทั้งของไทย อินเดีย และประเทศอื่น ๆ ลดลง ดังนั้นทางสมาคมฯจึงตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวของไทยในปี 2563 ที่ 8 ล้านตัน เท่ากับในปีนี้ 

 

ส่งออกข้าวไทยระส่ำ ปี63 คงเป้า 8 ล้านตัน

สอดคล้องกับนายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ที่กล่าวว่า คาดการส่งออกข้าวไทยในปี 2563 จะส่งออกได้ 8 ล้านตันเท่ากับปีนี้ ซึ่งหากทำได้ตามเป้าหมายก็ถือว่าเก่งมากแล้ว เพราะเงินบาทดูทีท่าจะแข็ง ซึ่งบางสำนักคาดการณ์ค่าเงินบาทจะแข็งค่าไปอยู่ที่ระดับ 28-29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หากเป็นเช่นนั้นข้าวไทยคงขายยาก เพราะจะยิ่งแพงกว่าคู่แข่งขันขึ้นไปอีก อีกด้านที่เป็นปัญหาคือไทยไม่มีพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ ไปขายแข่งเลย เรียกว่าไม่มีของขายที่จะจูงใจให้มาซื้อ ที่ขายแพงก็มีชนิดเดียวก็คือ "ข้าวหอมมะลิ" แต่หากค่าเงินบาทอ่อนค่าลง จะสามารถนำข้าวระดับล่างไปขายแข่งได้ ส่วนข้าวพื้นนิ่มก็ต้องพัฒนาขึ้นมาจะทำให้ขายได้ราคาดีขึ้น ซึ่งการที่จะทำให้ชาวนามีรายได้ขึ้น ไม่ใช่แค่การแจกเงินเพียงอย่างเดียว จะต้องพัฒนานำพันธ์ุข้าวใหม่ ๆ ออกมาให้ชาวนาปลูกด้วย เมื่อเป็นที่ต้องการตลาดก็จะทำให้ชาวนาขายข้าวได้ราคาดีขึ้น ส่งผลทำให้ราคาข้าวเปลือกดีขึ้น

ส่งออกข้าวไทยระส่ำ ปี63 คงเป้า 8 ล้านตัน

"ในวันนี้การช่วยเหลือชาวนาให้มีรายได้ขึ้น ไม่ใช่แค่การประกันรายได้ ต้องคิดระยะยาว จะมีพันธุ์ข้าวอะไรมาให้ชาวนาปลูกขายได้ราคาดี โดยที่รัฐไม่ต้องไปสนับสนุนมาก ไม่เช่นนั้นจะทำให้ชาวนาปลูกพันธุ์เดิม เพราะปลูกอย่างไรก็ได้เงิน รัฐก็ต้องช่วยอยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่ระบบค้าขาย เพราะถ้าเป็นระบบค้าขายทำแบบนี้ไม่ได้อยู่แล้ว ยกตัวอย่างเวียดนาม ข้าวขาว 5% มี 3-4 ชนิด ราคาและตลาดไม่เหมือนกัน ส่วนข้าวหอม ก็มี 3-4 ชนิดเช่นเดียวกัน ราคาและตลาดไม่เหมือนกัน แต่ไทยยังคงย่ำอยู่กับที่ 30 ปี มี 2 ชนิดข้าวขาวและข้าวหอมมะลิ ผมก็พูดอยู่อย่างนี้ไม่มีใครฟัง หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ อีกหน่อยข้าวหอมมะลิ ก็คงจบ เพราะคู่แข่งก็แย่งตลาดไปเรื่อยๆ"

ส่งออกข้าวไทยระส่ำ ปี63 คงเป้า 8 ล้านตัน

นายเจริญ กล่าวอีกว่าการส่งออกไม่ดี ราคาข้าวเปลือกก็ไม่ดี รัฐก็ต้องนำเงินมาสนับสนุนชาวนามากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องดูทั้งห่วงโซ่ อาทิ พันธุ์ข้าว ตอบโจทย์หรือไม่ เงินบาทแข็งค่าเกินไปหรือไม่ ค่าขนส่งส่งออกแพงหรือไม่ หรือการแข่งขันในประเทศดุเดือดเกินไปหรือไม่ ตัวอย่างการบริหารแบบอุตสาหกรรมน้ำตาล ทำไมควบคุมการเพาะปลูกได้ดีกว่าข้าว ควรจะแก้ไขแบบนี้ดีกว่า

ส่งออกข้าวไทยระส่ำ ปี63 คงเป้า 8 ล้านตัน