ผงะ! ชาวนากว่าล้านครัวเรือนชวดชดเชยรายได้ข้าว

07 ธ.ค. 2562 | 03:15 น.

ธ..ก.ส.เปิดข้อมูลลับประกันรายได้ เผยมีชาวนากว่าล้านครัวเรือนรัฐไม่ได้ชดเชยราคาประกัน เหตุราคาตลาด ความต้องการสูง ขณะที่ประกันรายได้ข้าว งวดที่ 5 “ข้าวเหนียว” ราคายังโด่ง ส่วน 4 ชนิดข้าว รัฐปลอบใจจ่ายชดเชย เปลี่ยนคำนวณใหม่เดิม 15 วันกำหนดราคากลาง หั่นเหลือ 7 วันแทน  “มัลลิกา” มั่นใจประกันรายได้ตอบโจทย์ ไม่บิดเบือนกลไกตลาด ช่วยเกษตรกรยั่งยืน

นับตั้งแต่เริ่มโครงการประกันราย (วันที่ 15 ต.ค.62 ) จะเห็นที่ผ่านมา 4 งวดแล้ว ราคาข้าว 3 ชนิดที่ไม่มีการชดเชยรายได้ จึงทำให้เกษตรกรหลายรายไม่พอใจ และเริ่มกังขากับโครงการเอื้อประโยชน์ใคร ใครได้ผลประโยชน์สูงสุด จนทำให้เสียงหวนคิดถึงมาตรการในยุค คสช.จ่ายตรงช่วยเหลือค่าปรับปรุง และค่าเก็บเกี่ยวควบมาตรการจำนำยุ้งฉางที่ช่วยยกระดับราคาข้าวทั้งประเทศ ขณะที่ประกันรายได้ใช้ราคากลางอ้างอิงถัวเฉลี่ยตั้งเป็นราคากลางในการชดเชย ผ่านมาใกล้โค้งสุดท้ายโครงการนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ผงะ! ชาวนากว่าล้านครัวเรือนชวดชดเชยรายได้ข้าว

แหล่งข่าวธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี2562/63 ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2562 นั้นจนถึงงวดที่ 5 มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไม่ได้รับเงินชดเชยรายได้กว่า 1 ครัวเรือน เพราะราคาข้าวสูงกว่าราคาที่รัฐประกันรายได้ ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ และข้าวเปลือกเหนียว ดังนั้นในรอบที่ 5 จึงมีการเปลี่ยนแปลงคำนวณราคารอบใหม่เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ราคาข้าวที่ผันผวนค่อนข้างเร็ว จึงเปลี่ยนรอบจากการคำนวณราคาเกณฑ์อ้างอิงจากเดิมใช้ในการชดเชยส่วนต่าง 15 วัน ล่าสุดเปลี่ยนเป็นแค่ 7 วันเท่านั้น ซึ่งการเปลี่ยนระยะเวลาใหม่ไม่มีผลย้อนหลัง

ผงะ! ชาวนากว่าล้านครัวเรือนชวดชดเชยรายได้ข้าว

“เมื่อคำนวณราคาข้าวเปลือกต่างๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 14,482.53 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 13,595.25 บาท 3.ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 7,546.41 บาท 4.ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 9,338.92 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 16,431.10 บาท"

ผงะ! ชาวนากว่าล้านครัวเรือนชวดชดเชยรายได้ข้าว

จากราคาดังกล่าวนี้ทำให้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ชดเชยตันละ 517.47 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 404.75 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 2,453.59 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,661.08 บาท ส่วนข้าวเปลือกเหนียว ราคาสูงกว่าประกันรายได้ จึงไม่ได้รับการขดเขย

ผงะ! ชาวนากว่าล้านครัวเรือนชวดชดเชยรายได้ข้าว

ด้านนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เผยว่า .ครงการประกันรายได้เป็นนโยบายที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรในช่วงที่ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ  ส่วนราคาประกันรายได้ที่กำหนด เป็นราคาที่กำหนดมาจากค่าเฉลี่ยต้นทุนการผลิต บวกราคาขนส่ง และบวกกับกำไรขั้นต้นประมาณ25% ซึ่งหมายถึงราคาของผลผลิตที่มีคุณภาพดี มีมาตรฐาน

ผงะ! ชาวนากว่าล้านครัวเรือนชวดชดเชยรายได้ข้าว

“ราคาตลาดอ้างอิง” กำหนดมาจากราคาเฉลี่ยที่มีการซื้อขายจริงทั่วประเทศ พิจารณาประกอบกับราคาผลผลิตที่แปรรูปแล้วจำหน่ายได้จริง(สินค้าปลายน้ำ เช่น ราคาของข้าวสาร)ทอนกลับมาเป็นราคาผลผลิตต้นน้ำ(ราคาข้าวเปลือก) จึงกำหนดเป็นราคาตลาดอ้างอิงตามประกาศ จะถูกกำหนดเป็นระยะๆ ปรับไปตามช่วงเวลาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับการขายจริงของเกษตรกรแต่ละราย เมื่อนำราคาประกันรายได้ เทียบกับราคาตลาดอ้างอิงในแต่ละงวด หากราคาประกันสูงกว่าราคาตลาดอ้างอิงเท่าไร ก็จะจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างให้เท่านั้น โอนตรงเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรแต่ละรายที่ธนาคารธ.ก.ส.ทุกราย

ผงะ! ชาวนากว่าล้านครัวเรือนชวดชดเชยรายได้ข้าว

สำหรับผลผลิตพืชผลการเกษตรที่เกษตรกรผลิตได้ แล้วนำไปขาย จะได้ราคาเท่าไรก็ขึ้นกับคุณภาพของผลผลิตและกลไกตลาดตามปกติ รัฐจะไม่ได้เข้าไปแทรกแซงหรือบิดเบือนกลไกตลาดแต่อย่างใด ดังนั้นถ้าเกษตรกรที่ผลิตของดีมีคุณภาพก็จะขายได้ราคาดี เมื่อได้เงินชดเชยไปอีก ก็จะได้เงินมากขึ้นด้วย แต่รายใดผลิตของไม่ดี ราคาขายจริงก็ต่ำ โครงการนี้จึงช่วยกระตุ้นให้เกษตรกรมีพัฒนาการขึ้นด้วย ช่วยส่งเสริมให้ผลิตของดีมีคุณภาพ

ผงะ! ชาวนากว่าล้านครัวเรือนชวดชดเชยรายได้ข้าว

ตัวอย่าง เช่น ข้าวเจ้าราคาประกันตันละ 10,000บาท สมมุติราคาตลาดประกาศ 8,000 บาท เกษตรกรจะได้ชดเชยส่วนต่าง 2,000บาท แต่ถ้าเกษตรกรรายใดทำข้าวได้ดีมีคุณภาพอาจขายได้เงินจริง 9,000 บาท ได้ส่วนต่างอีก 2,000บาท เท่ากับได้เงินรวมตันละ 11,000บาท ในทางตรงกันข้าม ถ้าทำข้าวคุณภาพไม่ดี อาจขายได้เพียงตันละ 7,000บาท ได้ส่วนต่างอีก 2,000 บาท รวมแล้วได้เงินเพียงตันละ 9,000บาท ดังนั้น โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่จะสนับสนุนและจูงใจให้เกษตรกรผลิตของดีมีคุณภาพด้วย

ผงะ! ชาวนากว่าล้านครัวเรือนชวดชดเชยรายได้ข้าว

โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่ช่วยเยียวยาเกษตรกรในช่วงที่ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ให้ได้เงินเพิ่มขึ้นในขณะที่กลไกตลาดยังทำงานปกติ และจะไม่ทำให้กลไกต่างๆบิดเบี้ยวไปจากความจริง ตลอดจนช่วยกระตุ้นให้เกษตรกรมีการพัฒนา และผลิตของดีมีคุณภาพเพื่อจะได้ขายได้ในราคาสูงขึ้นด้วย นี่จึงเป็นที่มาของพรรคประชาธิปัตย์จะทำในเรื่องที่มีความยั่งยืน และสอดคล้องกับกลไกตลาด ไม่มีการบิดเบือนกลไก จึงนับเป็นการเริ่มต้นแก้ไขปัญหาภาคเกษตรไทยให้มีความยั่งยืนอย่างแท้จริง

เอกสารแนบประกันรายได้ข้าว งวดที่ 5

ผงะ! ชาวนากว่าล้านครัวเรือนชวดชดเชยรายได้ข้าว