นบข.อนุมัติพันล้าน สินเชื่อชะลอขายข้าว

06 ธ.ค. 2562 | 10:07 น.

นบข.อนุมัติวงเงินสินเชื่อชะลอการขายข้าววงเงินรวมกว่า 1 พันล้านบาท ป้องราคาข้าวตกช่วงออกมามาก 

รายงานจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 2/2562 ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  เป็นประธาน มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะกรรมการผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามและรายงานสถานการณ์ผลผลิตข้าวในปี 2562/2563 รวมถึงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวรอบที่ 1 และมาตรการคู่ขนาน

สาระสำคัญที่ประชุมได้เสนอให้มีการพิจารณามาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกปีการผลิต 2562/63 โดยมีมติเห็นชอบการจัดสรรวงเงินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก เพื่อให้การดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นบข.อนุมัติพันล้าน สินเชื่อชะลอขายข้าว

 โดยขอให้รัฐบาลรับภาระเงินชดเชยดอกเบี้ยให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส. ) จากการให้สินเชื่อเกษตรกร และสถาบันเกษตรฯตามโครงการฯในอัตรา 2.40% ต่อปี รวมถึงภาระค่าใช้จ่ายกรณีที่มีการระบายข้าว ได้แก่ ค่าขนย้ายข้าวเปลือก ต้นทุนเงินค่าขนย้ายข้าว และส่วนต่างภาระขาดทุนจากการระบายข้าว 10% ของวงเงินสินเชื่อวงเงิน 1,030 ล้านบาท และค่าชดเชยดอกเบี้ยและค่าบริหารโครงการ 340 ล้านบาท รวม 1,370 ล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังพิจารณาโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2562/63 โดยเห็นชอบ 1. การเพิ่มจำนวนเป้าหมายเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปี 2562/63 จากเดิมที่กำหนดเป้าหมายไว้ 4.31 ล้านครัวเรือน และกรมส่งเสริมการเกษตรคาดการณ์ว่าจะมีเกษตรกรเพิ่มขึ้นอีกจำนวนประมาณ 0.26 ล้านครัวเรือน รวมเป็นเกษตรกรเป้าหมาย 4.57 ล้านครัวเรือน

2. อนุมัติวงเงินงบประมาณและค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2562/63 เพิ่มเติมรวมจำนวนทั้งสิ้น 2,667.35 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่เพิ่มขึ้นจำนวนประมาณ 2.6 แสนครัวเรือน และมอบหมายกระทรวงการคลัง และ ธ.ก.ส. จัดทำรายละเอียดโครงการฯ และงบประมาณให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และนำเสนอคณะรัฐมนตรีตามระเบียบต่อไป 3. ขยายระยะเวลาการจ่ายเงินโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2562/63 ให้เกษตรกรภาคอื่น ๆ จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เป็น สิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2563