วันนี้ (6 ธ.ค.62) นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. เผยว่าจากกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรี ครอบครองที่ดินโดยใช้หลักฐานเป็น ภบท.5 ในเขตตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี และที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่ในเขต พรฎ. กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินนั้นทาง ส.ป.ก. จึงได้การดำเนินการตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
โดยได้คำนึงถึงปฎิรูปที่ความถูกต้อง โปร่งใสและให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายมีการตรวจสอบต่อเนื่องตามขั้นตอน อย่างละเอียดตั้งแต่วันที่ 14-15 พ.ย.62 ส.ป.ก. มอบหมายเจ้าหน้าที่สำนักกฎหมายและสำนักจัดการปฏิรูปที่ดิน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่และสอบถามผู้ปกครองท้องที่ (ขอบเขตในแผนที่) เกี่ยวกับการถือครองและทำประโยชน์ในที่ดินโดยลักษณะการทำประโยชน์ ได้แก่ เลี้ยงไก่ โค ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ โรงเรือน สระน้ำ
จากนั้นวันที่ 15 พ.ย. 62 ส.ป.ก.ราชบุรี มีหนังสือแจ้งเกษตรกรผู้ได้รับอนุญาตฯ รายแปลง ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง เพื่อขอตรวจสอบการทำประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งมีเกษตรกรมาให้ข้อมูล จำนวน 9 ราย จากทั้งหมด 14 ราย โดยเกษตรกรทั้ง 9 รายยังเป็นผู้ถือครองและทำประโยชน์ด้วยตนเองจนวันที่ 18 พ.ย. 62 ส.ป.ก. มีคำสั่ง ที่ 1303/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงการครอบครองทำประโยชน์ โครงการป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมายเลข 85 จังหวัดราชบุรี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงได้มีหนังสือแจ้ง น.ส.ปารีณาฯ ให้มาชี้แจงการถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ
ผลปรากฏว่า ไม่มีผู้รับ บ้านปิด ไปรษณีย์ไม่สามารถนำจ่ายได้วันที่ 20 พ.ย. 62 ส.ป.ก.ราชบุรี ได้ดำเนินการปักป้ายแสดงพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินบริเวณพื้นที่ของ ส.ป.ก. ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี วันที่ 22 พ.ย. 62 ส.ป.ก. จัดประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงการครอบครองทำประโยชน์ โครงการป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมายเลข 85 จังหวัดราชบุรี
โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายครั้งที่ 1/2562 ซึ่งมติประชุมเห็นชอบมอบหมายให้ ส.ป.ก. ราชบุรี ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่เป้าหมาย กำหนดให้ ส.ป.ก.ราชบุรี รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงมายังคณะทำงานฯ ภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2562 เพื่อเสนอคณะทำงานฯ พิจารณาแนวทางการดำเนินงานในวันที่ 4 ธันวาคม 2562 นั้น
นายวิณะโรจน์ กล่าวว่า น.ส.ปารีณาฯ มีหนังสือแจ้ง ส.ป.ก. ขอเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ซึ่งทางส.ป.ก. ประชุมคณะทำงานฯ และตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลแล้ว ปรากฎว่า นางสาวปารีณาฯ มีสถานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมการบริษัท ปารีณา ไกรคุปต์ จำกัด ซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทได้ จึงไม่ใช่เกษตรกรผู้มีสิทธิจะได้รับการจัดที่ดินจาก ส.ป.ก.
ดังนั้น ส.ป.ก.จึงมีแนวทางการดำเนินการโดยส.ป.ก. จะแจ้งให้ น.ส.ปารีณาฯ คืนที่ดินที่ครอบครองและทำประโยชน์ทั้งหมดให้ ส.ป.ก. นำมาดำเนินปฏิรูปที่ดิน ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแล้วจะนำที่ดินไปจัดให้แก่เกษตรกรตามนโยบายจัดที่ทำกินชุมชนของรัฐบาล (คทช.) ต่อไป
ซึ่งหากครบกำหนดดังกล่าวแล้ว น.ส.ปารีณาฯ ไม่ส่งคืนที่ดิน ส.ป.ก.จะใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 36/2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบกฎหมาย
อนึ่ง สรุปที่ดิน น.ส. ปารีณา ถือครองทำประโยชน์ เนื้อที่ 682ไร่ เข้าครอบครองเมื่อประมาณปี 2548-2549 โดยได้รับมาจากบิดา ดังนี้
- แปลง No.73 เนื้อที่ 417 ไร่ ใช้ประโยชน์ในการทำโรงเลี้ยงไก่
- แปลง No.75 เนื้อที่ประมาณ 190 ไร่ ใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงวัว ปลูกหญ้าเลี้ยงวัว
- แปลง CL.424 เนื้อที่ประมาณ 48 ไร่ ใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงวัว ปลูกหญ้าเลี้ยงวัว
- แปลง No.74 เนื้อที่ประมาณ 27 ไร่ ใช้วางมูลไก่ ซึ่งที่ดินแปลงข้างเคียง ซึ่งส.ป.ก. ได้อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แล้ว รวม 14 ราย 15 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 491 ไร่ (ทิศเหนือ) และที่ดินแปลงย่อยบริเวณที่ติดถนนสายจอมบึง-ชัฏป่าหวาย ฝั่งตรงข้ามกับที่ดินที่ น.ส.ปารีณาฯ ถือครอง มีผู้ถือครองจำนวน 16 ราย 20 แปลง เนื้อที่ประมาณ 222 ไร่