“สุวิทย์”เร่งปั้นกำลังคนรองรับอีอีซี

04 ธ.ค. 2562 | 11:44 น.

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะประธาน คณะอนุกรรมการพัฒนาบุคลากรตามแนวทางอีอีซีโมเดล เปิดเผยภายว่า ที่ประชุมได้พิจารณา และรับทราบความคืบหน้าขั้นตอนการดำเนินงานการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี  ในระยะเวลา 2 ปี แนวทางการสนับสนุนบัณฑิตอาสาเพื่อพัฒนาชุมชนในพื้นที่ อีอีซี การสอนภาษาอังกฤษเชิงเทคนิคด้วยระบบ CLIL (สนับสนุนให้ครูผู้สอนไทย -อังกฤษทำงานร่วมกัน เพื่อให้วิชาชีพต่างๆ ใช้ทำงานในอนาคต) เพื่อสร้างอาชีวะอินเตอร์ และการพัฒนาบุคลากรในหลักสูตรระยะสั้น ให้รู้เท่าทันและเชี่ยวชาญเทคโนโลยี

 

สำหรับความคืบหน้าในการพัฒนาบุคลากรใน อีอีซี ในระยะเวลา 2 ปี ตามหลักการ Demand Driven (ความต้องการแรงงานตรงอุตสาหกรรม) ได้เน้นการพัฒนาบุคลากรและการศึกษายุคใหม่ ทั้งกลุ่มการศึกษาพื้นฐาน ที่ปรับปรุงทักษะด้านภาษา และการศึกษาด้าน Coding, (การลงรหัส) กลุ่ม STEM (สาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ คณิตศาสตร์) ขณะที่ ระดับอาชีวะและอุดมศึกษา ปรับสู่ Demand Driven Education ที่มีการจัดการศึกษาในแบบ EEC Model Type A ภายใต้ 3 หลักการ คือ 1. ลดการศึกษาแบบแก่งแย่ง แตกแยก สู่ความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและสถานประกอบการ โดยกำหนดตามความถนัดของแต่ละราย

“สุวิทย์”เร่งปั้นกำลังคนรองรับอีอีซี

                                      นายสุวิทย์ เมษินทรีย์

 

อีกทั้ง ช่วยพัฒนาการศึกษาและบุคลากรให้มีมาตรฐานตามหลักสากล 3. ร่วมทุนสนับสนุนค่าใช้จ่ายระหว่างภาครัฐกับเอกชนในสัดส่วน 50:50 และเอกชนบริจาคอุปกรณ์ชั้นสูง เพื่อให้สามารถผลิตบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรม

 

นอกจากนี้นโยบาย  Demand Driven ยังช่วยลดภาระของทุกฝ่าย เช่น ภาคเอกชน ได้ลดค่าใช้จ่ายในการลดหย่อนภาษีถึง 2.5 เท่า ภาครัฐบาลจ่ายเงินอุดหนุนน้อยลง เพราะไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ใหม่  ส่วนผู้เรียน ลดภาระทางการเงิน เรียนจบมีงานที่มีรายได้ดี  นอกจากนี้ ผู้เรียนยังสามารถกำหนดทิศทางและวางแผนชีวิตในอนาคตได้อย่างชัดเจนอีกด้วย โดยปัจจุบัน มีสถาบันเข้าร่วมล่าสุด คือ สถาบันอาชีวะในภาคตะวันออกเข้าร่วมจำนวน 12 แห่ง และปีการศึกษา 2562 มีผู้เข้าเรียนในระบบดังกล่าว จำนวน 1,117 คน

“สุวิทย์”เร่งปั้นกำลังคนรองรับอีอีซี

ทั้งนี้ คณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากรเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC-HDC ตั้งเป้าหมายว่า ภายในระยะเวลา 5 ปี ต้องปฏิรูปหลักสูตรของสถานศึกษาในพื้นที่ อีอีซีอย่างน้อย 80% ให้เป็นไปตามหลักสูตรตามแนวทาง อีอีซี โมเดล ที่ผ่านมามีการพัฒนาหลักสูตรระดับปริญญาตรีแล้ว 1 หลักสูตร ได้แก่ วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาปัญญาประดิษฐ์ประยุกต์ และอยู่ในระหว่างการดำเนินการอีก 1 หลักสูตร ได้แก่ วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ขณะที่ภายในปีการศึกษา 2564 จะมีหลักสูตรระดับปริญญาตรีที่กำลังปรับปรุงให้เป็นไปตาม EEC Model Type อีกไม่น้อยกว่า 100 หลักสูตร

 

ขณะที่แนวทางการสนับสนุนบัณฑิตอาสาเพื่อพัฒนาชุมชนในพื้นที่อีอีซี เพื่อกระจายโอกาสสู่ชุมชน และลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่อีอีซี ได้เปิดรับสมัครคัดเลือกบัณฑิตระดับปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่สำเร็จการศึกษาไม่เกิน 3 ปี จำนวน 120 คน เพื่อเข้าฝึกอบรม 2 เดือน จากนั้นเข้าทำงานใน 30 อำเภอ ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยทำงานร่วมกับอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงกลไกต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน ซึ่งบัณฑิตอาสารุ่นแรกคาดว่าจะมีประมาณ 30 คนจาก 3 จังหวัดใน อีอีซี เริ่มภายในเดือนมกราคม 2563

“สุวิทย์”เร่งปั้นกำลังคนรองรับอีอีซี

ส่วนการสอนภาษาอังกฤษเชิงเทคนิคด้วยระบบ CLIL เพื่อสร้างอาชีวะอินเตอร์ การดำเนินการในระยะแรก (ตุลาคม 2562-มีนาคม 2563) ได้พัฒนาการสอนภาษาอังกฤษในสถาบันอาชีวศึกษาใน 10 สาขาวิชา ครอบคลุมสถาบันอาชีวศึกษาของรัฐ 37 แห่ง ในภาคตะวันออก มีครูเข้าร่วมอบรม 400 คน  เพื่อยกระดับศักยภาพของผู้เรียนให้ทัดเทียมสากล สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษในวิชาชีพของตนเองได้อย่างมั่นใจ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มในการทำงานที่มีรายได้สูงในอนาคต โดยใช้วิธีการ Content-Language Integrated Learning (CLIL) เทคนิคการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษาอังกฤษให้เข้ากับเนื้อหาวิชาชีพในทุกวิชา ซึ่งถอดบทเรียนจากวิทยาลัยเทคโนโลยีไออาร์พีซี ที่นำเทคนิคนี้ไปใช้แล้วประสบความสำเร็จ  ด้วยการสร้างความเข้าใจและปรับความคิดผู้บริหารให้เห็นถึงความจำเป็นของ CLIL การพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษของครูช่าง และปรับสภาพแวดล้อมด้านภาษาอังกฤษในสถานศึกษา และในระยะต่อไป จะเตรียมการจัดตั้งศูนย์การพัฒนาความรู้ด้านภาษาอังกฤษเชิงวิชาชีพ ในมหาวิทยาลัยบูรพา

 

รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรในหลักสูตรระยะสั้นให้รู้เท่าทันและเชี่ยวชาญเทคโนโลยี เครือข่ายสถาบันการศึกษาในพื้นที่ อีอีซี ได้จัดหลักสูตรฝึกอบรมทักษะที่สำคัญเพื่อตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่ ทั้งด้าน อีคอมเมิร์ซ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และ MICE โดยมีผู้ผ่านการอบรมแล้ว จำนวน 2,000 คน ในปี 2562


“สุวิทย์”เร่งปั้นกำลังคนรองรับอีอีซี

 

นอกจากนี้ เพื่อดำเนินการจัดอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากร จำนวน 10,000 คน ภายใน 4 ปี ในอุตสาหกรรมเป้าหมายด้วยหลักสูตรระยะสั้นจำนวน 68 หลักสูตร  EEC-HDC ได้หารือบริษัทข้ามชาติชั้นนำระดับโลก ทั้ง หัวเว่ย และ ไมโครซอฟท์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ขณะที่ ออราเคิ่ล,ซอสโก้ และ Google กำลังอยู่ในระหว่างการหารือ โดยบริษัทเหล่านี้เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้สอนชาวต่างชาติ และค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ

 

ขณะเดียวกันได้กำหนดหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้น (Reskills ปรับทักษะ /Upskills เพิ่มทักษะ) ซึ่งตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมายในปีงบประมาณ 2563 จำนวน 120 หลักสูตร จำนวน 20,000 คน คิดเป็น 20% ของความต้องการกำลังคนในปี 2563 โดยได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่าย 200 ล้านบาท

“สุวิทย์”เร่งปั้นกำลังคนรองรับอีอีซี