ถกรื้อราคาหน้าโรงกลั่น หวังลดต้นทุนน้ำมัน

02 ธ.ค. 2562 | 07:17 น.

การประชุมคณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม เปิดวงถกร่วมกันประเด็นแรกเกี่ยวกับราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมัน มีตัวแทนทั้งจากภาครัฐและภาคประชาชน และเชิญผู้แทนโรงกลั่นน้ำมันเข้าร่วมให้ข้อมูล เตรียมตั้งคณะทำงานชุดเล็ก ตัวแทนฝั่งละ 3 คน เพื่อพิจารณาทางเทคนิคเกี่ยวกับโครงสร้างการคำนวณราคาหน้าโรงกลั่นต่อไปวันที่ 13 ธ.ค.นี้

 

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงาน  พร้อมด้วยผู้แทนภาคประชาชนได้ร่วมแถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม  มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน วันนี้ 2ธ.ค.62) ว่า ที่ประชุมได้หยิบยกโครงสร้างราคาน้ำมัน หน้าโรงกลั่นน้ำมันมาพิจารณา ซึ่งบรรยากาศการหารือเป็นไปด้วยดี มีการแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา และยังมีตัวแทนภาคธุรกิจในส่วนของโรงกลั่นน้ำมันร่วมให้ข้อมูลที่ถือเป็นสารตั้งต้นสำหรับเดินหน้าให้ได้ราคาพลังงานที่เป็นธรรมในที่สุด ซึ่งเนื้อหาที่ได้หารือครั้งนี้มุ่งไปที่เรื่องหลักคือ ราคาอ้างอิงหน้าโรงกลั่นน้ำมันที่เป็นการอ้างอิงการนำเข้าจากตลาดสิงคโปร์ (Import Parity)ว่าเกณฑ์ดังกล่าวยังมีความเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร

ถกรื้อราคาหน้าโรงกลั่น หวังลดต้นทุนน้ำมัน

 

หากไม่เหมาะสมควรมีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ในแนวทางใด หรืออาจจะยกเลิกเกณฑ์ดังกล่าวได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้จะได้มีการหารือในทางเทคนิคต่อไป โดยจะมีผู้แทนของทางภาครัฐและภาคประชาชนที่เข้าร่วมพิจารณาทางเทคนิคฝ่ายละ 3 คนเพื่อดำเนินการให้ได้ตัวเลขการปรับปรุงที่เป็นรูปธรรม เพื่อนำผลการหารือเข้าที่ประชุมในครั้งหน้าวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ต่อไป

 

นางสาวรสนา โตสิตระกูล ผู้แทนภาคประชาชนในคณะทำงานฯ กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญตัวแทนโรงกลั่นมาชี้แจงสูตรหน้าโรงกลั่นคือราคานำเข้าจากสิงคโปร์บวกค่าขนส่ง ค่าประกันภัย ค่าสูญเสียระหว่างเดินทางเข้ามา ซึ่งนอกจากค่าดำเนินการเหล่านี้แล้ว ยังมีค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน ค่าใช้จ่ายเพื่อสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคง ค่าใช้จ่ายคลังและค่าลำเลียง เหล่านี้ถือเป็นต้นทุน การพิจารณาทางเทคนิคก็จะมาดูว่าจะปรับเปลี่ยนได้อย่างไรบ้าง เพื่อจะได้ทำให้ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงลดลง เพราะราคาน้ำมันถือเป็นตันทุนทางตรงทั้งต่อภาคการผลิต และค่าครองชีพของประชาชน

ถกรื้อราคาหน้าโรงกลั่น หวังลดต้นทุนน้ำมัน

 

ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กล่าวว่า ข้อเสนอภาคประชาชนคือ ประเทศไทยได้ส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปแล้วหลายปี มูลค่าส่งออกเมื่อปีที่แล้วประมาณ 3 แสนล้านบาท  เมื่อสามารถส่งออกได้จำนวนมากจึงต้องการให้ราคาการอ้างอิงราคาหน้าโรงกลั่นเป็นการอ้างอิงราคาส่งออกน้ำมันไปสิงคโปร์ ซึ่งถูกกว่าเป็นหลัก แทนการอิงราคานำเข้าแบบเดิม หลักการหารือในครั้งนี้เป็นการพูดคุยเริ่มตั้งแต่ต้นทางของราคาน้ำมันก่อนบวกภาษี ซึ่งหากได้ข้อสรุปของเรื่องสูตรการกำหนดราคาหน้าโรงกลั่น จะทำให้ภาครัฐ สามารถกำกับดูแลประเด็นต่อๆ ไปได้อย่างโปร่งใส และขอขอบคุณกระทรวงพลังงานยุครัฐมนตรีสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่เปิดให้ภาคประชาชนมีสิทธิเสียงคุยกันเต็มที่เป็นคณะทำงาน เป็นสิ่งที่น่าชมเชยในความกล้าหาญ

ถกรื้อราคาหน้าโรงกลั่น หวังลดต้นทุนน้ำมัน