ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่หันมาดื่มนมไทย

28 พ.ย. 2562 | 09:25 น.

อ.ส.ค. เตรียมจัดงาน “Thai-Denmark Milksic Festival 2019”  หวังปลุกกระแสและสร้างค่านิยมเด็กรุ่นใหม่ Gen Z  ถึงGen X  ให้หันมาดื่มนมไทย-เดนมาร์ค นมโคสดแท้100% ไม่ผสมนมผง ก้าวสู่แบรนด์อันดับที่ 1 ที่อยู่ในใจผู้บริโภคชาวไทย

ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่หันมาดื่มนมไทย

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวภายหลังจากแถลงข่าวการจัดงาน ไทย-เดนมาร์ค มิ้ลค์สิค เฟสติวัล 2019 (Thai-Denmark Milksic Festival 2019) วัตถุประสงค์ของงานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อ สืบสาน รักษา  ต่อยอด “โคนมอาชีพพระราชทาน” ซึ่งเป็นอาชีพทรงคุณค่าที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานไว้ให้แก่เกษตรกรไทย ทรงเล็งเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมจะช่วยให้ชาวไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่า

ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่หันมาดื่มนมไทย

ทั้งยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยได้มีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน จึงมอบหมายให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) จัดงานรณรงค์การบริโภคนมด้วยผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คภายใต้ชื่องาน “ไทย-เดนมาร์ค มิ้ลค์สิค เฟสติวัล 2019” (Thai-Denmark  Milksic Festival 2019) ขึ้น โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 15 ธันวาคม  2562 นี้  ณ บริเวณลานเนินนุ่ม  ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่และจะหมุนเวียนไปตามภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ ให้มุ่งเน้นชักชวนคนรุ่นใหม่ ให้หันมาดื่มนมกันเยอะๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพ

ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่หันมาดื่มนมไทย

โดยมุ่งหวังว่างานดังกล่าวจะสามารถรณรงค์สร้างการรับรู้และสร้างค่านิยมให้คนไทยทุกเพศทุกวัยที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของนมไทย-เดนมาร์คและเลือกซื้อนมไทย-เดนมาร์คเป็นประจำอยู่แล้ว ยังคงรักและนิยมดื่มนมไทย-เดนมาร์ค  โดยกลุ่มเป้าหมายลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ อายุระหว่าง 13 – 53 ปี (กลุ่มGen Z อายุ 8 – 20 ปี) ถึง (กลุ่ม Gen X อายุ 38-53 ปี) ที่ชื่นชอบในการค้นหา รับฟังข้อมูลของผลิตภัณฑ์ต่างๆและกำลังมองหาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการในการบริโภคของตนเองได้หันมาสนใจและดื่มนมไทย-เดนมาร์ค  มากขึ้น

ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่หันมาดื่มนมไทย

กิจกรรมการรณรงค์ดังกล่าวจะได้ประโยชน์ในหลายด้าน อันดับแรกคือ ทำให้แบรนด์ไทย-เดนมาร์คซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้รัฐวิสาหกิจของกระทรวงเกษตรมีรายได้จากอัตราการเติบโตทางการตลาดที่มั่นคงและแข็งแรงยิ่งขึ้น อันดับที่สอง ช่วยรองรับปริมาณน้ำนมดิบของเกษตรกรที่เพิ่มขึ้นในอนาคตซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรโคนมไทยไม่ต้องประสบปัญหาน้ำนมล้นตลาดเหมือนในอดีต  อันดับที่สามคือเป็นการส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดีให้กับคนไทยทั่วประเทศสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลอีกทางหนึ่งด้วย

ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่หันมาดื่มนมไทย

จากสถิติพบว่าการบริโภคของคนไทยพบว่าดื่มนมเพียง 18 ลิตร/ปี และยังน้อยกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO)กำหนด ในขณะที่อัตราเฉลี่ยการบริโภคนมของประชากรทั่วโลกอยู่ในระดับ 113ลิตร/คน/ปี  ส่วน WHO กำหนดให้ดื่มนมเฉลี่ย 25 ลิตร/คน/ปี จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่าคนไทยยังดื่มนมน้อยมากกลายสิบเท่าเมื่อเทียบกับนานาประเทศทั่วโลก

ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่หันมาดื่มนมไทย

รมช.มนัญญา  กล่าวด้วยว่า  ที่ผ่านมาตนได้ให้นโยบายเร่งด่วนแก่ อ.ส.ค.เร่งส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทย ให้มีผลผลิตน้ำนมโคที่มีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพมากขึ้นก่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง การส่งเสริมงานวิจัยการเลี้ยงโคนมเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการฟาร์มโคนมให้แก่เกษตรกรในด้านการผลิต การสนับสนุนให้เกิดการกระจายรายได้ให้แก่เกษตรกร พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกษตรกรมีอาชีพการเลี้ยงโคนม เพื่อรองรับความผันผวนจากปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตร และให้ขยายพื้นที่การผลิตน้ำนมเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับเกษตรกรรุ่นใหม่โดยไม่ละทิ้งเกษตรกรรุ่นเก่า.

ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่หันมาดื่มนมไทย

 ด้านดร.ณรงค์ฤทธิ์  วงศ์สุวรรณ  ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการรณรงค์การบริโภคนม ได้กำหนดเป้าหมายการเพิ่มปริมาณการดื่มนมของคนไทยจากปริมาณ 18 ลิตรเป็น 25 ลิตร/คน/ปี ภายในปี 2569  ซึ่งนอกจากการบริโภคนมคุณภาพดี ที่ได้มาจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทยจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยมีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทยและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตรตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมนมไทยให้พัฒนายิ่งขึ้นไปอีกด้วย

ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่หันมาดื่มนมไทย

“กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นมหกรรมสร้างการรับรู้ในการบริโภคนมของคนไทยครั้งสำคัญอีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้เยาวชนไทยหันมาดื่มนมและเปลี่ยนความคิดว่าการดื่มนมเป็นเรื่องล้าสมัย หรือเฉพาะคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง  อีกทั้งยังเป็นเวทีในการตอกย้ำภาพลักษณ์ของนมไทย-เดนมาร์คและองค์กร มุ่งสู่การเป็น  “นมแห่งชาติ และแบรนด์อันดับที่ 1 ในใจผู้บริโภคชาวไทย (Top of Mind ) ในอุตสาหกรรมนมภายในปี 2564 ”

  ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่หันมาดื่มนมไทย

ดร.ณรงค์ฤทธิ์  กล่าวอีกว่า  นอกจากการส่งเสริมให้คนในประเทศบริโภคนมมากขึ้นแล้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรยังให้ความสำคัญในการสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมยุคใหม่เร่งปรับตัวรองรับการเปิดเสรีทางการค้าหรือ Free Trade Area : FTA ที่มีต่ออุตสาหกรรมนมและผลิตภัณฑ์นมของไทย  โดยการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมโคนมของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในยุคการค้าเสรี   ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในส่วนต้นน้ำ ได้แก่ ผู้เลี้ยงโคนมจำเป็นจะต้องลดต้นทุนการผลิต ยกระดับมาตรฐานและคุณภาพการผลิตน้ำนมดิบ สำหรับกลางน้ำจะเป็นผู้รับน้ำนมดิบไปผลิตต่อหรือแปรรูปจะต้องวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และปลายน้ำ ต้องทำการตลาดให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆทั้งในและต่างประเทศ 

ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่หันมาดื่มนมไทย

โดยทาง อ.ส.ค. ขอเชิญชวนประชาชนคนรุ่นใหม่ที่สนใจเข้าร่วมงาน “THAI-DENMARK MILKSIC FESTIVAL 2019” ซึ่งภายในงานผู้เข้าร่วมงานจะได้ร่วมสนุกกับบูธกิจกรรมต่างๆทั้งความบันเทิง และร่วมลุ้นรับของรางวัลมากมายกว่า 500,000 บาท พร้อมพบปะกับเหล่าศิลปินดารา อาทิเช่น ตุ๊กกี้ ชิงร้อย, ดีเจบุ๊กโกะ, ว่าน ธนกฤต, ซานิ AF และพลาดไม่ได้กับศิลปินไอดอล จากภาคเหนือของประเทศไทย วง SY51 และยังมีการออกร้านค้า โซนอาหารที่รวมของอร่อย แล้วพบกันในวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2562 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานเนินนุ่ม ตําบลดอนแก้ว อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่