เอกชนยังมั่นใจเศรษฐกิจไทยปีหน้ายังไปรอด

หอการค้ายังเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยปีหน้ายังไปรอด เหตุฐานรากแข็งแกร่ง แม้เจอวิกฤติบาทแข็ง ชี้เทรดวอร์ไทยรับอานิสงส์จีนย้ายฐานซบไทย  ส่วนปีนี้คาดการณ์เศรษฐกิจขยายตัว3% จากการท่องเที่ยวและส่งออกยังเป็นพระเอก

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเศรษฐกิจในภาพรวมของไทยว่าในปีนี้เศรฐกิจจะขยายตัวประมาณ 3% โดยภาคการท่องเที่ยวและส่งออกจะยังเป็นตัวหลักที่จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัว โดยในส่วนของการส่งออกแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาตัวเลขจะติดลบและได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่าประเทศอื่น ๆ แต่ยังเชื่อมั่นว่าในภาพรวมเศรษฐกิจของไทยและการส่งออกจะยังขยายตัวได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีพื้นฐานที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง รวมทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมมือกันในการออกมาตรฐานเพื่อส่งเสริมการส่งออก และกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น การอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการตามด่านต่าง ๆ เช่น สระแก้ว จ.สระแก้ว สะเดา จ.สะเดา เร่งให้เปิดสะพานสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา จ.ตาก ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเชื่อมการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ที่จะทำให้การค้าชายแดนไทย เมียนมาคึกคักมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้การส่งออกและเศรษฐกิจของไทยเป็นไปตามเป้าหมาย

ขณะที่การท่องเที่ยวหอการค้าก็ให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ โดยเมื่อเร็ว ๆนี้ก็ได้เสนอแนวคิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆเช่น การทำถนนคนเดิน หรือ Walking Street ในย่านต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพ เช่น ย่านเยาวราช สีลม และข้าวสาร รวมทั้งในต่างจังหวัด ซึ่งทางหอการค้าจังหวัดต่าง ๆ ก็จะส่งเสริมให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในต่างจังหวัดคึกคักมากยิ่งขึ้น รวมทั้งขอความร่วมมือหอการค้าแต่ละจังหวัดให้จัดกิจกรรม สัมมนาต่าง ๆ เพื่อกระจายรายได้ให้กับท้องถิ่น ขณะเดียวกันภาครัฐก็พยายามดึงการจัดงานนิทรรศการต่าง ๆมาที่ไทย รวมทั้งเตรียมจะเชิญบล็อกเกอร์ด้านการท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศมาไทย โดยหอการค้าทั่วประเทศพร้อมให้ความร่วมมือในการต้อนรับและกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย

“หอการค้ามองว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะดีขึ้นเพราะรากฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องสงครามการค้า ค่าเงินบาทที่แข็งค่า แต่ในภาพรวมก็ไม่ได้ส่งผลกระทบด้านลบกับไทยโดยเฉพาะเรื่องสงครามการค้ากลับเป็นผลดีต่อไทยเพราะทราบมาจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) มีนักลงทุนจีนหันมาลงทุนในไทยมากขึ้นหลังจากที่มีปัญหากับทางสหรัฐ” นายกลินท์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี 62 ใช้งบ 3.5 หมื่นล้านบาทว่า เป็นมาตรการที่ดี โดยเฉพาะมาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการบ้านมีดาวน์ ซึ่งกระตุ้นการซื้อบ้านของผู้มีรายได้น้อยเพื่อให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ขณะนี้คนมีเงินแต่ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย การออกมาตรการดังกล่าวน่าจะช่วยได้ อย่างไรก็ตามจะสามารถกระตุ้นการเติบโตหรือจีดีพีได้มากน้อยแค่ไหนต้องรอประเมินหลังมาตรการดังกล่าวขับเคลื่อนไปสักระยะหนึ่งก่อน ทั้งนี้หอการค้าไทยจะมีการประชุมหอการค้าทั่วประเทศในระหว่างวันที่ 29พ.ย.-1 ธ.ค.ที่จังหวัดลำปาง ซึ่งจะมีการพูดคุยถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย