WHAจัดให้ ดึง‘เกาหลี’ ลงทุนอีอีซี

25 พ.ย. 2562 | 23:00 น.

WHA ชง “ประยุทธ์” จัดหาพื้นที่ 1.5 พันไร่ ให้เกาหลีใต้ลงทุนทันที แจงในการประชุม สุดยอดอาเซียน 24-27 พ.ย.นี้ พร้อม MOU ส่งเสริมลงทุนใน อีอีซี คาดดึงเม็ดเงินได้กว่า 1.5 แสนล้านบาท

 

 

การเดินทางเยือนนครปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างวันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2562 เพื่อเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 จะเป็นอีกเวทีหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีของไทย จะไปตอกยํ้าในการเชิญชวนนักลงทุนเกาหลีใต้มาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี

หลังจากที่ทั้ง 2 ประเทศ ได้มีการลงนามความร่วมมือในด้านต่างๆไปเมื่อช่วงที่นายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ได้นำนักลงทุนกว่า 100 คน มาเยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา และมีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี และกระทรวงอุตสาหกรรม ที่จะยกระดับความร่วมมือส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และ SMEs ในสาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งทางเกาหลีใต้ ได้ขอให้รัฐบาลไทยจัดหาพื้นที่ในอีอีซี ให้นักลงทุนเกาหลีใต้ลงทุนโดยเฉพาะ

หลังจากนั้นไม่กี่วันคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นลงทุน ภายใต้ Thailand Plus Package เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศที่เร่งย้ายฐาน จากผลกระทบของสงครามการค้า โดยหนึ่งในมาตรการดังกล่าว เป็นเรื่องของการจัดหาและพัฒนาพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อรองรับการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติแต่ละประเทศเป็นการเฉพาะ เช่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ และ จีน เป็นต้น

ดังนั้นการไปเยือนเกาหลีใต้ ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้จะมีการไปชี้แจงให้นักลงทุนเกาหลีใต้ทราบว่าทางรัฐบาลสามารถที่จะจัดหาพื้นที่เพื่อรองรับนักลงทุนเกาหลีใต้มาลงทุนเป็นการเฉพาะได้แล้ว ทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จะมีการลงนามความร่วมมือการส่งเสริมลงทุนในพื้นที่อีอีซีด้วย

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการ นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(กพอ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ทางสกพอ.โดยนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการกพอ. และนายควอน พยอง โอ ประธานและซีอีโอสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งประเทศสาธารณรัฐเกาหลี หรือ KOTRA จะลงนามความร่วมมือ(MOU)ว่าด้วย การพัฒนาอุตสาหกรรมและส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนใน
พื้นที่อีอีซี โดยเฉพาะการส่งเสริมความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ยานยนต์สมัยใหม่ ดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เกษตรขั้นสูง เทคโนโลยีชีวภาพ การบินและอวกาศ โลจิสติกส์ การแพทย์และดูแลสุขภาพ รวมถึงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม

ทั้งนี้ MOU ดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมโยงนโยบาย New Southern Policy ของเกาหลีเพื่อขยายความร่วมมือด้านต่างๆ มาสู่ภูมิภาคอาเซียน กับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของไทย ให้เป็นรูปธรรมในการสร้างความเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจในอีอีซี รวมถึงความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน ตลอดจนส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า การจัดหาพื้นที่ให้นักลงทุนเกาหลีใต้ เป็นการเฉพาะนั้น ทางบริษัทได้นำเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อนำไปชี้แจงนักลงทุนในการประชุม สุดยอดผู้นำอาเซียนแล้ว โดยจัดเตรียมไว้ให้ราว 1,500 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนได้ทันทีราว 500 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 จังหวัดชลบุรี และในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ 36 จังหวัดชลบุรีอีก 1 พันไร่ จากพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเป็นเขตส่งเสริมพิเศษเพื่อกิจการอุตสาหกรรมแล้ว ที่มีพื้นที่รวม 1.28 พันไร่ ซึ่งจะเปิดดำเนินการขายได้ในช่วงกลางปีหน้าเป็นต้นไปได้ หากนักลงทุนเกาหลีใต้ตัดสินใจเข้ามาลงทุน การจัดหาพื้นที่จึงไม่มีความน่าเป็นห่วง

ทั้งนี้ หากมีการลงทุนเต็มพื้นที่ 1,500 ไร่ จะส่งผลให้เกิดเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาทอย่างแน่นอน เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

ทั้งนี้ เห็นได้จากยอดขายที่ดินในนิคมฯของดับบลิวเอชเอในช่วงปีนี้ ได้เห็นตัวเลขแล้วที่ 1.2 พันไร่ จากจำนวนลูกค้าราว 12 ราย ในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ การผลิตสินค้าคอนซูเมอร์ และอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แต่ละรายใช้ที่ดิน 100 ไร่ขึ้นไป คาดจะก่อให้เกิดการลงทุนไม่ตํ่ากว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อราย ซึ่งเป็นนักลงทุนจากจีนและไต้หวันกว่า 50% หรือเกิดการลงทุนรวมไม่ตํ่ากว่า 1 แสนล้านบาท

“กำลังรอลุ้นว่าถึงสิ้นปีนี้ยอดขายที่ดินจะขึ้นไปที่ 1.4 พันไร่หรือไม่ ซึ่งยอดขาย 1.2 พันไร่ เป็นนักลงทุนจีนและไต้หวันส่วนใหญ่กว่า 50% ที่ย้ายฐานมาลงทุนจากผลกระทบสงครามการค้า และล้วนเป็นโครงการใหม่เม็ดเงินลงทุนเกิน 1 หมื่นล้านบาทต่อราย ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีนักลงทุนจากจีนและไต้หวันเดินทางมาเป็นคณะอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นแนวโน้มการลงทุนในอีอีซีจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง”

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3525 วันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2562