หอ5ภาคชงแผน แข่งกระตุ้นจีดีพี

23 พ.ย. 2562 | 05:00 น.

หอการค้า 5 ภาค แข่งชงแผนเสนอรัฐบาล กู้วิกฤติเศรษฐกิจปี 63 หลังปี 62 จีดีพีไทยตํ่าสุดรอบ 5 ปี ภาคเหนือจี้เพิ่มค้าชายแดน รับมือหมอกควันหวั่นทำเศรษฐกิจหด อีสานดันปีท่องเที่ยว 22 จังหวัด ใต้เร่งรัฐลงทุนเมกะโปรเจ็กต์

 

 

เศรษฐกิจไทยปี 2562 อยู่ในช่วงขาลง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยปีนี้จะขยายตัวที่ 2.6% ตํ่าสุดในรอบ5 ปี จากภาคการส่งออก ภาคท่องเที่ยวชะลอตัว ภาคอุตสาหกรรมลดการผลิตลดคนงาน ลดเงินเดือน ไม่มีโอที ราคาพืชผล เกษตรยังทรงตัวตํ่า เงินในกระเป๋าของประชาชนมีน้อยลง ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นลดการจับจ่ายใช้สอย ถือเป็นความจำเป็น

อย่างยิ่งที่ภาครัฐและเอกชนต้องช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักในปลายปีนี้ รวมถึงในปีหน้า

เวทีสำคัญเวทีหนึ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นคือการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 37 ที่จังหวัดลำปางระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน- 1 ธันวาคม 2562 นี้ จะเป็นอีกเวทีหนึ่งที่จะมีผู้นำเอกชนด้านเศรษฐกิจจากหอการค้าทุกจังหวัดทั่วประเทศทั้ง 5 ภาค มาระดมสมองเพื่อนำเสนอยุทธศาสตร์และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในแต่ละภาคเพื่อนำข้อสรุปจัดทำเป็นสมุดปกขาวยื่นเสนอให้รัฐบาลเพื่อร่วมมือกับภาคเอกชนนำสู่ภาคปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมต่อไป

 

เหนือ-อีสานบูมท่องเที่ยว

นายวิโรจน์ จิรัฐิติกาลโชติ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือ หอการค้าไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หอการค้าภาคเหนือ 17 จังหวัด มีแผนงานในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะนำเสนอ ที่สำคัญได้แก่ การร่วมมือกับภาครัฐในการเตรียมแผนรับมือปัญหาหมอกควันพิษที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม ซึ่งอาจส่งผลกระทบเศรษฐกิจในภาพรวม เฉพาะอย่างยิ่งภาคการท่องเที่ยวที่เข้าสู่ช่วงไฮซีซัน การผลักดันให้รัฐบาลเร่งส่งเสริมพืชเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้ เช่น กาแฟ โกโก้ และเตรียมรับมือกับปัญหาภัยแล้งรวมถึงการผลักดันการขยายเวลาเปิด-ปิดด่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จากปัจจุบันปิดด่านพรมแดนเวลา 18.00 น. ให้เป็น 20.30 น. เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า และลดค่าใช้เอกชน

นายสวาท ธีระรัตนนุกุลชัย ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) กล่าวว่า ภาคอีสาน 20 จังหวัด ประสบปัญหาเศรษฐกิจ และกำลังซื้อในพื้นที่ลดลง ราคาพืชผลทางการเกษตรหลักทั้งข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ยางพาราไม่ดี ประสบปัญหาภัยแล้ง นํ้าท่วม กระทบผลผลิตลดลง ดังนั้นในปี 2563 จึงมีแผนงานที่จะนำเสนอคือการบริหารจัดการนํ้าให้เป็นระบบและให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ และเพื่อเสริมรายได้กับเศรษฐกิจชุมชนจะมุ่งเน้นด้านการท่องเที่ยว โดยจะร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ผลักดันให้ปี 2563 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวภาคอีสาน

 

ใต้-ตะวันออกดันรายได้เสริม

นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ กล่าวว่า ภาคใต้ 14 จังหวัด ได้เตรียมนำเสนอยุทธศาสตร์ในการผลักดันเศรษฐกิจในพื้นที่ให้ขยายตัว เช่น การเร่งให้ภาครัฐลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ในพื้นที่ ยกตัวอย่าง ทางรถไฟชุมพร-สุราษฎร์ธานีระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร (กม.) อยากให้รัฐเปิดประมูลและดำเนินการทำไปพร้อมกัน จากปัจจุบันเปิดประมูลครั้งละ 10-20 กม. หากทำพร้อมกันจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และจะช่วยให้ภาคเอกชนเกิดความเชื่อมั่นและลงทุนตาม นอกจากนี้จะมุ่งเน้นการท่องเที่ยวชุมชน รวมถึงให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนเกษตรกรเพิ่มรายได้จากการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์เป็นรายได้เสริม เช่น การเลี้ยงแพะ ไก่ วัว ทำบ่อเลี้ยงปลา บ่อกบ เป็นต้น จากปัจจุบันมีรายได้หลักจากสวนยาง และปาล์ม

นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก กล่าวว่า ภาคตะวันออกซึ่งมีรายได้หลักจากอุตสาหกรรมการผลิตและการส่งออกปีนี้ประสบปัญหาส่งออกชะลอตัว ไม่ว่าจะเป็นสินค้ายานยนต์ และชิ้นส่วน ปิโตรเคมี เม็ดพลาสติก หลายโรงงานมีปัญหาต้องลดเวลาทำงาน ลดโอที ลดเงินเดือน เพื่อหวังรอเศรษฐกิจโลก และการส่งออกไทยจะดีขึ้นในปี 2563

“ในการสัมมนาหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศครั้งนี้ภาคตะวันออก 8 จังหวัด ได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มเพื่อให้ไปหารือและทำข้อสรุปมานำเสนอ ได้แก่ กลุ่มจังหวัดอีอีซี (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา) 2.จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว เช่นชลบุรี ได้มอบหมายให้ไปดูเรื่องนวัตกรรม และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่ม ฉะเชิงเทราไปดูเรื่องอาหารปลอดภัย ส่วนจังหวัดอื่นๆ ให้ไปดูว่าพื้นที่ไหนมีศักยภาพเหมาะสมจะทำอะไร และต้องการสนับสนุนอย่างไรเพื่อนำเสนอไอเดียในที่ประชุม”

 

กลางจี้เปิด2ด่านชั่วคราว

ขณะที่ว่าที่ ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง กล่าวว่า ภาคกลางมีรายได้หลักจากภาคเกษตรและอาหาร มีข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก และยังมีรายได้จากภาคการค้าและบริการ เป็นแหล่งที่ตั้งโรงงาน โดยแหล่งใหญ่อยู่ที่สมุทรสาคร 4-5 พันโรง และยังมีรายได้จากการค้าชายแดน ครั้งนี้ภาคกลาง 15 จังหวัดจะนำเสนอในการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ เช่น การผลักดันการท่องเที่ยวและบริการเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ขอให้รัฐบาลผลักดันด่านสิงขร(ประจวบคีรีขันธ์) และด่านเจดีย์สามองค์ (กาญจนบุรี) ที่ถูกปิดให้กลับมาเป็นด่านชั่วคราว เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าไทย-เมียนมา ก่อนที่สินค้าจีนจะทะลักเข้ามาครองตลาดในเมียนมา เป็นต้น

 

ลุ้น ศก.ไทยปี 63 โตเหนือ 3%

ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็น ชิม ช้อป ใช้ มาตรการประกันรายได้เกษตรกร และมาตรการโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ยังไม่สามารถกระตุ้นให้เศรษฐกิจ และกำลังซื้อให้กลับมาคึกคักหรือมีความเชื่อมั่นได้ ดังนั้นระยะเวลาที่เหลือของปีนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม รวมถึงต้องรอดูผลว่ามาตรการชิม ช้อป ใช้ เฟส 3 ว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยเพียงใด

“หากรัฐบาลยังไม่สามารถกระตุ้นกำลังซื้อหรือความเชื่อมั่นได้ ก็มีความ
จำเป็นที่รัฐบาลอาจต้องมีมาตรการอื่นเสริม เพราะถ้าเศรษฐกิจไทยมีบรรยากาศของการซึมตัวลงต่อเนื่องถึงไตรมาสที่ 4 ยังไม่ฟื้น ไตรมาสที่ 1 ปี 2563 จะเหนื่อย เพราะเศรษฐกิจจะเริ่มต้นจากฐานที่ไม่ดี และถ้ายังไม่กระเตื้องในไตรมาสที่ 1 ทำให้เศรษฐกิจไทยปีหน้ามีความเสี่ยงอาจจะโตตํ่ากว่า 3% ได้ แต่หากรัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นในเชิงนโยบายได้ ทำให้
นักลงทุนต่างประเทศ และนักธุรกิจไทยลงทุน และประชาชนเริ่มบริโภคมากขึ้น เศรษฐกิจไทยปี 2563 ก็มีโอกาสขยายตัวในกรอบ 3-3.2%” 

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3525 วันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2562