หวั่นยาปลอมระบาดหนัก   พาณิชย์จับมือUSPTO

22 พ.ย. 2562 | 10:42 น.

พาณิชย์ หวั่นยาปลอมระบาด  ทั้งยาลดน้ำหนัก ยาขยายหลอดเลือด ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ    ชี้อันตรายต่อสุขภาพผู้ซื้อเสียหายหนักกว่าปัญหาการละเมิดเครื่องหมายการค้า เตรียมจับมือหลายหน่วยงานระดมป้องปรามพร้อมรณรงค์ Safe Meds, Save Lives” สร้างความตระหนักให้ประชาชนใช้ยาที่ปลอดภัย

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังหารือร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาในประเด็นปัญหายาปลอมหรือยาที่จำหน่ายโดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต  ว่า หลังจากที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โดยสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาสหรัฐ หรือ USPTO เปิดตัวโครงการรณรงค์ "Safe Meds, Save Lives” ซึ่งเป็นการรณรงค์เสริมสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ตระหนักถึงอันตรายจากการใช้ยาปลอม หรือยาที่จำหน่ายโดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตนั้น ทางสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้ขอให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา เชิญสำนักงานคณะกรรมการอาหารและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมในการรณรงค์ด้วย

หวั่นยาปลอมระบาดหนัก   พาณิชย์จับมือUSPTO

ดังนั้น กระทรวงเตรียมจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในการรณรงค์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวซื้อยาจากร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เช่น กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร องค์การเภสัชกรรม และสมาคมร้านขายยา เป็นต้น เพื่อจะสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากการแก้ปัญหาการจำหน่ายยาปลอมจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เห็นผลในระยะยาว เพราะยาปลอมเป็นเรื่องการละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยการนำเข้า ผลิต และจำหน่ายยาปลอม เช่น ยาลดน้ำหนัก ยาขยายหลอดเลือด ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งนอกจากสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อเจ้าของเครื่องหมายการค้าสินค้ายาแล้ว ยังเป็นการซ้ำเติมผู้ป่วยหรือผู้ที่ใช้ยาให้ได้รับความทุกข์ทรมาน ได้รับอันตรายต่อสุขภาพ หรือเสียชีวิตจากการใช้ยาปลอม โดยไม่คำนึงถึงมนุษยธรรมและผลกระทบต่อสังคม ซึ่งความเสียหายต่อสุขภาพผู้ซื้อยาปลอมนั้นประเมินมูลค่าไม่ได้ นับเป็นความสูญเสียที่เสียหายหนักกว่าปัญหาการละเมิดเครื่องหมายการค้า

ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างเตรียมการหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดกิจกรรมมอบนโยบายต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามการจำหน่ายยาปลอม และยาที่จำหน่ายโดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นได้กำหนดพื้นที่รณรงค์อย่างเข้มข้น บริเวณที่มีการกระทำผิดค่อนข้างมาก เช่น ซอยนานา และถนนสุขุมวิท ซึ่งมีการหลอกขายยาปลอมแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนอยู่บ่อยครั้ง ทั้งนี้ นอกจากจะสร้างความเข้าใจ ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมถึงผู้บริโภคชาวไทยได้ตระหนักถึงอันตรายจากการใช้ยาปลอมแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ให้เห็นว่าประเทศไทยไม่สนับสนุนให้มีการจำหน่ายยาปลอมและยาที่จำหน่ายโดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตด้วย