หอค้าไทยชง “ประยุทธ์” 4 แนวทางลดกระทบแบนสารพิษ

20 พ.ย. 2562 | 07:16 น.

หอการค้าไทยชงรัฐมนตรีเกษตรฯ-นายกรัฐมนตรี 4 ข้อเสนอรับมือแบน 3 สารพิษ ย้ำเห็นด้วยที่ยกเลิก แต่ต้องมีมาตรการลดผลกระทบจากผู้มีส่วนได้-เสียที่ชัดเจน

 

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยว่า หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อส่งผ่านไปยังนายกรัฐมนตรี ถึงข้อเสนอแนะต่อการยกเลิกการใช้ 3 สารเคมี ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และ ไกลโฟเซต ในภาคเกษตร ที่จะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562

 

ทั้งนี้หอการค้าฯ เห็นด้วยกับประกาศดังกล่าว โดยได้มีการประชุมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ จากสมาชิก ผู้ประกอบการและสมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการผลิตที่ต้องใช้วัตถุดิบทั้งในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ

 

อย่างไรก็ตาม การผลิตเพื่อบริโภคในประเทศและส่งออกของประเทศจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าเกษตรส่วนมากจากต่างประเทศเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการแปรรูปเป็นอาหารสำหรับคนและสัตว์ อาทิ ถั่วเหลือง ข้าวสาลี และแป้งข้าวสาลี กาแฟ โกโก้ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันสินค้าสำเร็จรูปของประเทศไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐานสากลด้านความปลอดภัยทางอาหาร และเป็นที่ยอมรับจากประเทศคู่ค้าทั่วไป

หอค้าไทยชง “ประยุทธ์”  4 แนวทางลดกระทบแบนสารพิษ

สำหรับการผลิตของประเทศผู้ส่งออกสินค้าค้าเกษตรดังกล่าวมายังประเทศไทยไม่ได้มีการยกเลิกการใช้สารทั้ง 3 ชนิด และยังคงใช้ในขบวนการเพาะปลูกตามปกติ บนพื้นฐานของการใช้อย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อควบคุมสารตกค้างในการผลิตตามที่มาตรฐานสากล (Codex MRL) กำหนดไว้

ดังนั้น การที่ประเทศไทยประกาศยกเลิกการใช้สารทั้ง 3 ชนิด จะมีผลทำให้ผลผลิตที่ใช้สารดังกล่าวมีค่ากำหนดตกค้างเป็น Zero Tolerance ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่ต้องมีค่ากำหนด Zero Tolerance ตามประกาศ จะทำให้ขาดแคลนวัตถุดินในการผลิต ส่งผลให้เกิดวิกฤตการขาดแคลนอาหารทั้งในประเทศ และเพื่อการส่งออก

 

หอค้าไทยชง “ประยุทธ์”  4 แนวทางลดกระทบแบนสารพิษ

หอการค้าไทยจึงได้ยื่นข้อเสนอแนะให้กับรัฐบาล เพื่อให้การประกาศยกเลิกใช้สารทั้ง 3 ชนิด มีผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องน้อยที่สุด โดยมีข้อเสนอ ดังนี้

1.อนุญาตให้ผู้ประกอบการนำเข้าวัตถุดิบทางการเกษตรเพื่อแปรรูป สามารถนำเข้าวัตถุดิบทางการเกษตรจากประเทศอื่น ๆ ที่ยังใช้สารทั้ง 3 ชนิด โดยกำหนดค่าความปลอดภัยของสารตกค้างตามมาตรฐานสากล (Codex MRL)

2  เร่งรัดมาตรการเยียวยาชดใช้และชดเชยผู้ประกอบการและเกษตรกรที่ครอบครองสารทั้ง 3 ชนิด เพื่อลดผลกระทบจากการยกเลิกการใช้สารในภาคเกษตร 3 ชนิด

3.เร่งรัดการศึกษาและวิจัยเพื่อหาสารทดแทนการใช้สารทั้ง 3 ชนิด ในการเกษตร ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนทางการเกษตร

4  สนับสนุนการทำเกษตรปลอดภัย (GAP) เพื่อการป้องกันและดูแลสุขภาพเกษตรกรและประชาชนผู้บริโภคตลอดห่วงโซ่อาหาร