กสอ. ดันใช้นวัตกรรมปรับกระบวนการผลิตอุตฯ โลหะ

20 พ.ย. 2562 | 05:05 น.

กสอ. เดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโลหะการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่เพื่อปรับกระบวนการผลิต ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0

กสอ. ดันใช้นวัตกรรมปรับกระบวนการผลิตอุตฯ โลหะ
                นายณัฐพล  รังสิตพล  อธิบดี  กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า กรมฯได้มุ่งเน้นส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีให้เป็น Smart SMEs ที่มีศักยภาพสูงผ่านกระบวนการเรียนรู้  ฝึกอบรมให้ผู้ประกอบการมีความรู้  ทักษะและแนวคิดในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจร  รวมถึงสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึง เข้าใจ ในการดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมุ่งไปสู่การเป็น Global SMEs ที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีศักยภาพและทักษะในการพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์

กสอ. ดันใช้นวัตกรรมปรับกระบวนการผลิตอุตฯ โลหะ  

                ทั้งนี้  เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของไทยขณะที่อุตสาหกรรมโลหะการ  ถือเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการตั้งแต่การผลิตวัสดุและการแปรรูปสู่ชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต อุตสาหกรรมโลหะการจะต้องมีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น การพัฒนาวัสดุผสม (CompositeMaterial) หรือการพัฒนาวัสดุให้ทนทาน ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (SustainableMaterial) ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0 ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดทำขึ้น

                ขณะเดียวกัน กสอ. ได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมโลหะการและอุตสาหกรรมสนับสนุน  ซึ่งหมายรวมถึงอุตสาหกรรมที่ผลิตและส่งสินค้าวัตถุดิบหรือบริการให้กับอุตสาหกรรมอื่น ๆ อาทิ อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล ชิ้นส่วนไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมหล่อโลหะอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ โดยดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (IndustryTransformation Center 4.0 หรือ ITC 4.0) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีเครื่องจักรกลาง การออกแบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมงานวิจัย การต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและดิจิทัลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของภาคอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์

การส่งเสริมเอสเอ็มอีให้ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบงานคุณภาพที่เกี่ยวข้องเช่น ISO 9001, ISO 14001, IATF 16949 ผ่านกิจกรรมให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกด้านมาตรฐานณ สถานประกอบการ ตลอดจนการตรวจสอบก่อน (Pre-audit) ซึ่งเมื่อเอสเอ็มอีได้รับรองมาตรฐานแล้วก็จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในด้านการควบคุมคุณภาพการลดของเสีย และเป็นที่ยอมรับทั้งตลาดในประเทศและสากล 

นายณัฐพล  กล่าวต่ออีกว่า  ปัจจุบันยังมีอุตสาหกรรมใหม่ที่มีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์หรือพัฒนาตลาดเพิ่มเติม อาทิ ผู้ประกอบการโลหะการที่ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อาจเริ่มมองแนวทางการพัฒนาสู่การผลิตชิ้นส่วนเครื่องมือแพทย์ชิ้นส่วนอากาศยาน ซึ่ง กสอ. มีโครงการ / กิจกรรมในการส่งเสริมด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ฝึกอบรมมาตรฐาน และการพัฒนาเครือข่ายสำหรับอุตสาหกรรมใหม่ดังกล่าวเช่นกัน  โดยที่ผ่านมามีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ/กิจกรรมจนประสบความสำเร็จเป็น Success Case ในด้านต่าง ๆ เช่น โครงการต้นแบบเตาหลอมประสิทธิภาพสูงที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม(TheModel Project for An Environmentally Conscious High-EfficiencyArc Furnace) ซึ่ง กสอ. ได้ร่วมกับ สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยและองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (NEDO) ประเทศญี่ปุ่นดำเนินการ

“ต้นแบบเตาหลอมประสิทธิภาพสูงที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมผลิตเหล็กของประเทศไทยตั้งอยู่ที่ บริษัท ยู เอ็ม ซี เม็ททอล จำกัด จังหวัดชลบุรี โดยเป็นเทคโนโลยีเตาอาร์คไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ECOARC) มีกำลังผลิต70 ตัน/ชั่วโมง ซึ่งเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2555 และเริ่มดำเนินการผลิตในเดือน เมษายน พ.ศ. 2556 เป็นต้นมา ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถลดการใช้พลังงาน 28% เมื่อเทียบกับเตาอาร์คไฟฟ้า (EAF)แบบเดิม”

กิจกรรมให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติโดย บริษัท สยามฟอร์จิง จำกัด ดำเนินกิจการด้านการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมด้วยกระบวนการทุบขึ้นรูปร้อน (Hotforging) โดยเป็นทั้งผู้ผลิตและจำหน่ายรวมถึงการรับผลิตตามออเดอร์มีสินค้า อาทิ อะไหล่ยานยนต์ ได้นำเทคโนโลยีการตรวจนับแบบอัตโนมัติเข้ามาใช้แทนคน ทำให้ช่วยลดเวลาในการทำงาน รวมถึงมีข้อผิดพลาดน้อยลงเพิ่มประสิทธิภาพในไลน์การผลิตได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับก่อนการปรับปรุงสร้างความเชื่อมั่นและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้น          
                จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมโลหะการมีความหลากหลายอย่างมากซึ่งในต่างประเทศมีโรดแมปในสาขางานวิจัยและการพัฒนาสำหรับอุตสาหกรรมดังกล่าวขณะที่ประเทศไทยเองยังมีโอกาสและสามารถพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากประเด็นเรื่องที่พัฒนาดังกล่าว เป็นการเพิ่มมูลค่าที่สำคัญ หรือสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับประเทศไทย หรือปรับให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของประเทศอื่น ๆ ซึ่งใน งาน METALEX 2019 ได้มีการนำเอาเทคโนโลยีเครื่องจักรกลโลหะการที่ทันสมัยมารวมไว้ที่นี่เชื่อว่าจะสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการในการพัฒนาต่อยอดและประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมโลหะการในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ก้าวเข้าสู่4.0 อย่างเต็มตัว