“สุริยะ” ลั่นไม่มีญาติทำธุรกิจทำลายสารอันตราย

20 พ.ย. 2562 | 01:45 น.

รมว.อุตสาหกรรมแจงชัดไม่มีญาติทำธุรกิจทำลายสารอันตราย  เผยอยู่ระหว่างรอกรมวิชาการเกษตรยกร่างประกาศกระทรวงแบน 3 สารอันตราย   ชี้ต้องรับฟังผลประชาพิจารณ์ด้วยว่าเกษตรกรได้รับผลกระทบอย่างไร  

“สุริยะ” ลั่นไม่มีญาติทำธุรกิจทำลายสารอันตราย

                นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ  รัฐมนตรีว่าการกระรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยกรณีที่มีประเด็นคำถามว่าเมื่อยกระดับ 3 สารเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ห้ามครอบครองจะต้องมีการทำลาย โดยบริษัทที่ทำลายสารเคมีอันตราย ที่ได้มาตรฐานซึ่งในประเทศไทยมีเพียง 1บริษัท ซึ่งเป็นญาติของนายสุริยะ จึงทำให้เรื่องนี้ต้องมีการแบนวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ว่า ญาติตนไม่มีใครทำธุรกิจพวกนี้แน่นอน  และตนก็มีความเห็นว่า ถ้ารัฐบาลให้ยกเลิกการใช้และห้ามครอบครอง ทำไมจะต้องไปทำลายสารด้วย ในเมื่อบอกว่ายังมี 3 สารนี้ในตลาดอยู่ 30,000-40,000 ตัน ค่าทำลายตันละ 100,000 บาท รวมแล้วถ้าทำลายต้องใช้เงินร่วม 3,000 ล้านบาท ก็ไม่เห็นต้องทำลายและแก้ไขโดยสารส่งกลับไปยังประเทศที่นำเข้ามาก็ได้แล้ว

                นายสุริยะ ยังได้กล่าวต่อไปอีกในในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ว่า ขณะนี้ได้ให้อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) สอบถามไปยังกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดก่อน มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร ไปจัดทำประชาพิจารณ์ และยกร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อยกระดับสารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด ได้แก่ คลอร์ไพริฟอส  ,พาราควอต  และไกลโฟเซต จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 4 ซึ่งจะมีผลให้ห้ามผลิต นำเข้า ส่งออก และมีไว้ครอบครอง คาดว่าใน 1-2 วันนี้ กรมวิชาการเกษตรจะส่งเรื่องกลับมา และตนจะได้กำหนดวันและเรียกประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ ที่มีผลตามกฏหมายฉบับใหม่ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 62 เป็นต้นมา

ทั้งนี้  ในการประชุมจะต้องนำผลจากที่กรมวิชาการเกษตรไปทำประชาพิจารณ์มาพิจารณาด้วย เพื่อได้ทราบว่ามีคนแสดงความเห็นอย่างไร เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย  โดยต้องดูว่าเกษตรกรได้รับผลกระทบอย่างไร  รวมทั้งกรมวิชาการเกษตรต้องรายงานมาด้วยว่า  เมื่อยกระดับ 3 สารเป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 4 และจะมีสารชนิดใหม่อะไรมาใช้ทดแทน ราคาแตกต่างกันอย่างไร   เกษตรกรจะเดือดร้อนหรือไม่ มีผลกระทบอย่างไร และสารตัวใหม่เป็นสารพิษหรือไม่

“สุริยะ” ลั่นไม่มีญาติทำธุรกิจทำลายสารอันตราย

                “หากเกษตรกรมีความเดือดร้อนก็ต้องหามาตรการช่วยเหลือ  ซึ่งกรมวิชาการเกษตรกรต้องเสนอมาทั้งระบบ ส่วนที่กรมวิชาการเกษตร  จะยกร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมมานั้น ตามขั้นตอนหากที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่ตนเป็นประธานเห็นชอบ ก็จะต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเมื่อเห็นชอบแล้ว จะมีผลก็เมื่อมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา”