แผน 5 ปี ปตท.สผ. โตเท่าตัว ผนึกโอมาน-ยูเออีดันรายได้เพิ่ม

19 พ.ย. 2562 | 04:30 น.

 

รายงาน

"ถ้าการประมูลแหล่งเอราวัณกับบงกชเราแพ้ ภาพของ ปตท.สผ.จะเปลี่ยนไป เราคงเสียกำลังใจมาก และในอีก 3-4 ปีข้างหน้า กำลังการผลิตเราจะหาย และจะเล็กลงไปเลย ก็เป็นทั้งฝีมือและโชคช่วยที่เราสามารถทำได้ตามพันธกิจที่ถูกมอบหมายมา ช่วยให้เราคานหลายสิ่งหลายอย่างจากต่างชาติ และมีส่วนร่วมในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ จากจุดนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยน แปลงมากมายในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่เราชนะประมูล ก็ได้วาง Expand กับ Execute (กลยุทธ์การดำเนินงานและขยายธุรกิจ) คือเราต้องการขยายตัว และจะเน้นการปฏิบัติให้เกิดผลขึ้นมา”

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) กล่าวตอนหนึ่งในการพบสื่อมวลชนไทยที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
(ยูเออี) หลังเข้าร่วมงาน Abu Dhabi International Petroleum Exhibition & Conference (ADIPEC) ถึงหนึ่งในก้าวย่างสำคัญของ ปตท.สผ. ในกลยุทธ์การเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียม(ก๊าซ-นํ้ามัน)ของบริษัทที่อยู่ระหว่างการดำเนินการเปลี่ยนผ่านสิทธิการดำเนินโครงการบงกชและเอราวัณ

 

แผน 5 ปี ปตท.สผ.  โตเท่าตัว  ผนึกโอมาน-ยูเออีดันรายได้เพิ่ม

                                                     พงศธร ทวีสิน

 

ทุ่มลงทุน 6 หมื่นล้านดันรายได้

ขณะที่ยังมีอีกหลายโครงการตามแผน 5 ปี (2563-2567)ที่บริษัทจะใช้เงินลงทุนรวม 1,700-2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 5.2-6.2 หมื่นล้านบาท รอบอร์ดพิจารณาอนุมัติธ.ค.นี้) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเพิ่มการผลิตปิโตรเลียมจากปลายปี 2562 อยู่ที่ระดับ 4.2 แสนบาร์เรล(เทียบเท่านํ้ามันดิบต่อวัน)เป็น 6-7 แสนบาร์เรลต่อวัน หรือเพิ่มอีกเท่าตัว เน้นใน 5 ประเทศหลักคือ ไทย มาเลเซีย เมียนมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมาน

โดยในส่วนของแหล่งเอราวัณและบงกชที่จะสิ้นสุดอายุสัมปทานในปี 2565-2566 จะทำให้รับรู้กำลังผลิตเต็มที่ รวมถึงการเข้าซื้อกิจการเมอร์ฟี่ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ ปตท.สผ.เป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมใหญ่เป็นอันดับ 3 ในมาเลเซียในด้านการถือครองปริมาณทรัพยากร และเพิ่มปริมาณการขาย และกระแสเงินสดให้บริษัททันที และทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นในปีนี้ 5 หมื่นบาร์เรลต่อวัน และปี 2563 จะเพิ่มขึ้นเป็น 7 หมื่นบาร์เรลต่อวัน โดยปตท.มีแผนสำรวจหลุมปิโตรเลียมในมาเลเซียปีหน้า 11 หลุม ส่วนในเมียนมาได้มองหาโอกาสต่อยอดธุรกิจในส่วนของก๊าซ

 

แผน 5 ปี ปตท.สผ.  โตเท่าตัว  ผนึกโอมาน-ยูเออีดันรายได้เพิ่ม

 

 

โอมาน-ยูเออียังขยายได้อีก

ในตะวันออกกลางจากการเข้าซื้อกิจการบริษัท พาร์เท็กซ์ โฮลดิ้ง บี.วี.ฯ บริษัทชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเลียมในภูมิภาคตะวันออกทั้งในประเทศโอมาน และประเทศอื่นๆ (ซึ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2562) จะส่งผลให้ ปตท.สผ.มีปริมาณการขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น 1.6 หมื่นบาร์เรลต่อวัน

ส่วนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บริษัทมีการลงทุนในโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 1 และอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 โดยทั้ง 2 โครงการ ปตท.สผ.ถือหุ้น 30% ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อวางแผนสำรวจและผลิต นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในโครงการแอดนอค ก๊าซ โพรเซสซิ่ง กลุ่มโรงแยกก๊าซบนบกขนาดใหญ่สุดของรัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีกำลังผลิตรวม 8,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยปัจจุบัน ปตท.สผ.มีการลงทุน 2% ในโรงแยกก๊าซที่มีกำลังผลิตรวม 1,200 ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

“สมัยก่อน ปตท.สผ.มีวิสัยทัศน์ที่อยากจะเป็นผู้นำด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ปัจจุบันมองว่าโลกสมัยใหม่ไม่ใช่โลกของการแข่งขันขนาดนั้นแล้ว แต่เป็นโลกของความร่วมมือ จึงเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของเราเป็น ‘Energy Partner of Choice’ คือสร้างคุณค่าและสานประโยชน์ร่วมกัน”

 

 

ขณะที่อีกหนึ่งกลยุทธ์สร้างความยั่งยืน ปตท.สผ.ได้ลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี โดยได้จัดตั้งบริษัทเอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ ARV เพื่อรองรับการลงทุนในธุรกิจด้านปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการผลิต และสร้างความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานและช่วยลดต้นทุนแก่ทั้งบริษัทเองรวมถึงคู่ค้าที่มาใช้บริการ

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,523 วันที่ 17-20 พฤศจิกายน 2562

แผน 5 ปี ปตท.สผ.  โตเท่าตัว  ผนึกโอมาน-ยูเออีดันรายได้เพิ่ม