วิชั่น ‘อลงกรณ์’ ดันไทยขึ้นแท่นท็อปเทนอาหารของโลก

11 พ.ย. 2562 | 13:25 น.

“อลงกรณ์” แนะรัฐบาลคิกออฟโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก”ดับบลิวอีซี”คู่ขนานอีอีซี สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 2 ล้านล้านบาท พิ่มศักยภาพใหม่ไทยแลนด์4.0 พ่วงเมกะโปรเจค”วิสัยทัศน์2025”เปิดประตูตะวันตกดันไทยขึ้นแท่นประเทศผู้ส่งออกอาหารท็อปเทนของโลก 

วิชั่น ‘อลงกรณ์’ ดันไทยขึ้นแท่นท็อปเทนอาหารของโลก

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนวันนี้(11 พ.ย.)กรณีที่คณะรัฐมนตรีจัดการประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดกาญจนบุรีในวันที่12พ.ย.นี้ว่า การประชุมครม.สัญจรในภาคตะวันตกที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นครั้งแรก ตนคิดว่า เป็นโอกาสดีที่สุดที่รัฐบาลควรประกาศคิกออฟเดินหน้าโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันตก(Western Economic Corridor:WEC)เพื่อให้เป็นโครงการพัฒนาระดับเมกะโปรเจคคู่ขนานกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกเพื่อให้เกิดความสม ดุลใหม่ของการพัฒนาประเทศและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันบนศักยภาพของประเทศและควรจัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมารับผิดชอบเพื่อขับเคลื่อนโครงการโดยตรง

 

“ผมได้เสนอคอนเซ็ปเปเปอร์”วิสัยทัศน์ 2025และโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก”ของพรรคประชาธิปัตย์ต่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อพิจารณาและเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์ริเริ่มและสนับสนุนดับลิวอีซีตลอดมาโดยเฉพาะโครงการท่าเรือน้ำลึกที่ทวายและการเปิดด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อนกาญจนบุรีและเชื่อว่าวิสัยทัศน์2025จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศซึ่งต้องร่วมมือกันทุกภาคีภาคส่วนช่วยกัน”

วิชั่น ‘อลงกรณ์’ ดันไทยขึ้นแท่นท็อปเทนอาหารของโลก

จากศักยภาพของประเทศไทยความเป็นฮับด้านเกษตรอาหารการท่องเที่ยวและโลจิสติกส์เป็นแนวทางการพัฒนาแบบยั่งยืนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ(SDGs)เพื่อให้เกิดความสมดุลใหม่ของการพัฒนาประเทศและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันบนศักยภาพของประเทศภายใต้เป้าหมายและวิสัยทัศน์ระเบียงเศรษฐกิจตะวันตกหรือ WEC 2025

 

 1. ฮับโลจิสติกส์ เชื่อมไทยเชื่อมโลกด้วยการเปิดประตูตะวันตกสู่มหาสมุทรอินเดีย

 2. ฮับเกษตรและอาหารของโลกสู่การเป็นประเทศผู้ส่งออกท็อปเทนของโลก

 3. ฮับอีโคทัวริซึ่มของโลกด้วยคอนเซ็ปท์”ทั่วโลกเที่ยวไทย”

 

ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดในภาคตะวันตกและภาคกลางตอนบน-ตอนล่าง13จังหวัดได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี อยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาทและ อุทัยธานีเพื่อเป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษแนวใหม่แห่งศตวรรษที่21ของไทยของอาเซียนและของโลก

โดยมีโครงการหลักในการพัฒนา 10 โครงการเมกะโปรเจค 1. โครงการประตูตะวันตก( Western Gateway )โดยยกระดับสถานภาพและศักยภาพของใหม่จังหวัดกาญจนบุรีเป็น”ประตูตะวันตก”หรือเกทเวย์ใหม่ของประเทศไทยสู่มหาสมุทรอินเดียและโลกตะวันตก

วิชั่น ‘อลงกรณ์’ ดันไทยขึ้นแท่นท็อปเทนอาหารของโลก

 2. เร่งรัดการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย ถนนกาญจนบุรี-ทวายและเขตเศรษฐกิจพิเศษ  3. โครงการพัฒนาโลจิสติกส์และการค้าการท่องเที่ยวรอบอ่าวเบงกอล 9 ประเทศ  4. โครงการพัฒนาท่าเรือท่องเที่ยวและประมงมะริด-สิงขร  5. โครงการท่าเรือขนส่งและท่องเที่ยว(เพชรบุรี/ประจวบคีรีขันธ์-ชลบุรี-ระยอง)เชื่อมWECกับEEC  6. โครงการสนามบินใหม่นานาชาติกำแพงแสน โครงการสนามบินแก่งกระจานและสนามบินกาญจนบุรีเพื่อเป็นฮับการบินในภาคตะวันตก  7. โครงการรถไฟความเร็วสูงโครงการรถไฟ4รางทางคู่และโครงการมอเตอร์เวย์

 

8. โครงการถนนเครือข่ายตะวันตก(Western  SuperHighway Network)โดยพัฒนาทางหลวง3510เป็นซูเปอร์ไฮเวย์หลักของภาคตะวันตกเชื่อมโครงข่ายทางหลวงเอเซียหมายเลข1(AH1)-หมายเลข2(AH2) เชื่อมโครงข่ายถนนเพชรเกษมและระบบทางหลวงแผ่นดิน เชื่อมถนนพระราม2(โครงการ4แยกวังมะนาว) เชื่อมโครงข่ายมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรีและนครปฐม-ชะอำ

 

9. โครงการศูนย์กลางเกษตรอาหารโลก ประกอบด้วยโครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร (Food Innopolis) , AgriTech innovation Park ,ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AgriTech Innovation Center ) เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคบริการการท่องเที่ยวเชิงเกษตร(,Eco&AgriTourism SEZ ), world Seafood Hub และ โครงการนิคมอุตสาหกรรม เกษตร 4.0 (AgroIndustry4.0) และ 10. โครงการพัฒนาเครือข่ายถนนทะเลตะวันตก(Western Sea Belt Road)เพื่อการท่องเที่ยวเลียบทะเลอ่าวไทยตะวันตก-อันดามัน

ทั้งนี้จะต้องมีการจัดตั้งสำนักงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันตกดำเนินโครงการตามกรอบเวลาของแผนพัฒนาWECปีงบประมาณ พ.ศ.2563-2568 (ค.ศ.2020-2025) โดยจะสร้างงานสร้างอาชีพใหม่ 100,000 อัตรา มีการลงทุนใหม่ 500,000 ล้านบาทและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 2 ล้านล้านบาท