เอ็กซอนโมบิล จี้ขอคําตอบรัฐ ถมทะเล3พันไร่

11 พ.ย. 2562 | 03:00 น.

 

“เอ็กซอนโมบิล” จี้ทวงถามรัฐบาลถมทะเล 3 พันไร่ บริเวณเขาบ่อยา ชลบุรี สร้างปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ 3 แสนล้าน ต้องได้คำตอบก.พ. 63 หวั่นบริษัทแม่ที่สหรัฐฯ โยกการลงทุนไปเวียดนาม ยันสร้างผลประโยชน์ให้ประเทศชาติ ต่อยอดอีอีซี ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่

โครงการลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ มูลค่าราว 3 แสนล้านบาท ในพื้นที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ของบริษัท เอ็กซอนโมบิลฯ ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของสหรัฐอเมริกา โดยขอให้รัฐบาลไทยช่วยสนับสนุนการจัดหาพื้นที่ก่อสร้าง จากการถมทะเลบริเวณเขาบ่อยา ซึ่งเป็นท่าเรือของโรงกลั่นนํ้ามันเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กว่า 1 พันไร่ ซึ่งทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ได้ว่าจ้างสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ทำการศึกษาความเป็นไปได้ของการถมทะเลอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563

ทั้งนี้ ผลการศึกษาการถมทะเลดังกล่าว จะเป็นการช่วยให้เกิดความกระจ่างหรือเป็นข้อสรุปว่าทางเอ็กซอนโมบิล จะตัดสินใจลงทุนในโครงการปิโตรเคมีในไทยหรือจะย้ายการลงทุนไปประเทศเวียดนามแทน

นายเจเรมี โรเบิร์ต ออสเตอร์สต๊อก ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในเครือเอ็กซอนโมบิล เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทยังคงมีความหวังในเชิงบวกเกี่ยวกับผลการศึกษาที่กำลังจะออกมาในช่วงต้นปี 2563 ซึ่งมีความสำคัญและเป็นสิ่งที่บริษัทจะนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการสร้างโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในประเทศไทยว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า ประเทศไทยมีจุดแข็งที่สอดคล้องกับแผนการในอนาคตของเอ็กซอนโมบิล แต่ต้องยอมรับว่านอกจากประเทศไทยแล้วบริษัทก็พิจารณาประเทศอื่นๆเป็นทางเลือกด้วยเช่นกัน เพียงแต่ขณะนี้ยินดีที่จะรอพิจารณาผลการศึกษาของไทย

เอ็กซอนโมบิล  จี้ขอคําตอบรัฐ  ถมทะเล3พันไร่

เจเรมี โรเบิร์ต ออสเตอร์สต๊อก

นายอดิศักดิ์ แจ้งกมลกุลชัย ประธานบริหารโครงการอุตสาหกรรมแห่งอนาคต บริษัท เอ็กซอนโมบิล จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทแม่ของเอ็กซอนโมบิล อยู่ระหว่างรอความชัดเจนของรัฐบาลไทยในการให้คำตอบว่าจะถมทะเลบริเวณเขาบ่อยา อันเป็นที่ตั้งของโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ได้หรือไม่ เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจในการลงทุนโครงการปิโตรเคมีหรือต้องการย้ายการลงทุนไปประเทศเวียดนามแทน ซึ่งเข้าใจว่าผลการศึกษาความเป็นไปได้เร็วสุดจะเสร็จภายในสิ้นปีนี้หรือไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2563

ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมาทางเอ็กซอนโมบิล ได้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ ไปแล้ว หากรัฐบาลตัดสินใจและให้กนอ.เป็นผู้ลงทุนถมทะเลให้ จะเป็นการสร้างโอกาสให้เกิดเม็ดเงินลงทุนเบื้องต้นราว 3 แสนล้านบาท เกิดการจ้างงานระหว่างก่อสร้างกว่า 1 หมื่นคน ช่วยสร้างงานในพื้นที่ได้ไม่ต่ำกว่า 5 พันคน รวมถึงการเปิดพื้นที่ให้เอกชนรายอื่นๆ เข้ามาใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซีต่อไปได้ด้วย เนื่องจากเอ็กซอนโมบิลจะใช้พื้นที่เพียงกว่า 1 พันไร่ จากทั้งหมด 3 พันไร่ ซึ่งหากรัฐบาลอนุมัติให้ถมทะเลได้ ก็ต้องใช้ระยะเวลาอีก 7-8 ปี ในการดำเนินงานตามขั้นตอนของกฎหมายและการก่อสร้าง ที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2570

ส่วนที่ต้องเลือกการถมทะเลนั้น เนื่องจากพื้นที่บนฝั่งบริเวณท่าเรือแหลมฉบังห่างจากโรงกลั่นนํ้ามันเอสโซ่ในรัศมี 5 กิโลเมตรนั้นไม่มีพื้นที่ว่างพอให้ตั้งโรงงานปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ได้ เนื่องจากโครงการนี้มีความจำเป็นต้องใช้หน่วยการผลิต เช่น ไอนํ้า พลังงานความร้อน รวมถึงผลิตภัณฑ์ส่วนหนึ่ง เช่น นํ้ามันหนัก ที่ได้จากกระบวนการกลั่นนํ้ามัน ป้อนให้กับโรงงานปิโตรเคมี เพื่อนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วร่วมกัน ช่วยประหยัดต้นทุนการดำเนินงานได้

ที่สำคัญโรงงานปิโตรเคมีแห่งนี้จะใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ที่เป็นเทคโนโลยีเพียงรายเดียวของโลก โดยการนำน้ำมันดิบเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการกลั่นแต่อย่างใด ถือเป็นการช่วยลดขั้นตอนการผลิต ต่างไปจากกระบวนการผลิตของโรงงานปิโตรเคมีทั่วไป ที่เป็นการใช้ผลผลิตของก๊าซ และแนฟทา ซึ่งจะช่วยให้เกิดประหยัดพลังงาน ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต เป็นต้น

จากการลงทุนโครงการดังกล่าวนี้เองจะเป็นการช่วยสนับสนุนการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี ที่มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตโพลิเอทิลีน และโพลิโพรพิลีน รวมกำลังผลิตขนาด 1.2 ล้านตันต่อปี เพื่อมารองรับหรือต่อยอดให้กับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เนื่องจากเป็นโพลิเมอร์คุณภาพสูงมีความแข็งแรง นำไปใช้ในอุตสาหกรรมด้านการเกษตร การพัฒนายานยนต์แห่งอนาคต อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การแปรรูปอาหาร การขนส่ง โลจิสติกส์ และการแพทย์ครบวงจร เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันโพลิเมอร์ดังกล่าวนี้ยังต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศอยู่

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าโครงการนี้มีความล่าช้ามา 2 ปีแล้ว เพราะติดปัญหาการจัดหาพื้นที่ก่อสร้างโรงงาน แต่ที่บริษัทยังไม่ย้ายการลงทุนไปประเทศอื่น เพราะยังมีความสัมพันธภาพที่ดีกับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง มีการจ้างงานกว่า 3 พันคน มีพื้นที่อีอีซีในการพัฒนาเศรษฐกิจเหมาะสมในภูมิภาค มีโรงกลั่นน้ำมันที่เป็นฐานให้กับโรงงานปิโตรเคมีอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับจีนและเวียดนาม แม้จะจัดหาพื้นที่ก่อสร้างให้ได้แต่เงื่อนไขอื่นๆ ยังสู้ไทยไม่ได้ 

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3521 วันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2562

เอ็กซอนโมบิล  จี้ขอคําตอบรัฐ  ถมทะเล3พันไร่