อีสานคึกพ่อค้าแข่งเดือดแย่งซื้อข้าวหอมมะลิ
สกต.ศรีสะเกษ เผยอีสานหัวบันไดไม่แห้ง ยิ่งกลางเดือนข้าวออกมากจะเห็นรถวิ่งกลางทุ่งขวักไขว่ แย้มข่าวดี 14 พ.ย.ลุ้นอีกเฮือกหนึ่ง รัฐบาลจะประชุมจำนำยุ้งฉางจะมีหรือไม่มี “เกรียงศักดิ์” บุกลุยซื้อข้าวหอมมะลิ ผงะพบโรคไหม้คอรวงข้าว ผวาผลผลิตลดต่ำลงใกล้เคียงกว่าปีที่แล้วหรืออาจจะมากกว่ายังต้องลุ้นต่อ ตั้งข้อสังเกตทำไมปล่อยให้ระบาด ไม่ป้องกันก่อน
นายสมพงษ์ จันทร์เพชร ประธานคณะกรรมการ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธ.ก.ส.ศรีสะเกษ จำกัด (สกต.ธกส.ศรีสะเกษ) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เป็นประจำทุกปีที่จะมีโรงสีภาคกลางวิ่งมาซื้อข้าวหอมมะลิทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรืออีสาน ไล่มาตั้งแต่นครราชสีมา ปีนี้ไม่ค่อยดีกระทบแล้งผลผลิตน้อย แต่ที่ศรีสะเกษน้ำท่าอุดมสมบูรณ์มีโรคไหม้คอรวงระบาด แต่ก็ไม่มาก ผลผลิตข้าวจะเริ่มมีมากตั้งแต่กลางเดือน พ.ย.เป็นต้นไปคาดว่าสีสันพ่อค้า โรงสี ภาคกลาง จะมาแย่งซื้อข้าวไปส่งลูกค้ากันอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีกำลังรอฟังข่าวดีจากรัฐบาลที่จะมีการประชุมใหญ่ในวันที่ 14 พ.ย.นี้ จะชัดเจนว่าโครงการสินเชื่อชะลอการขายข่าวเปลือกนาปี (จำนำยุ้งฉาง) จะมีหรือไม่มี แต่ก็อยากให้มีเพราะอย่างน้อยสหกรณ์จะได้ค่าฝากเก็บบ้าง
สอดคล้องกับนายบู๊เฮียง รุ่งรัชกานนท์ เจ้าของ หจก.โรงสีข้าวเอกไพบูลย์ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า สถานการณ์ข้าวหอมมะลิยังไม่แน่นอน เมล็ดรวงลีบ สุกไม่พร้อมกัน พ่อค้าต่างฝ่ายต่างยังสงวนดูท่าทีกัน เนื่องจากปีที่แล้วมีพ่อค้าซื้อไปก็ขายขาดทุนจากการซื้อข้าวหอมต้นฤดูแพงมาก แล้วมีบางช่วงราคาข้าวตกลงมา กว่าราคาจะขึ้นไปใหม่ ทำให้หลายคนเข็ดขยาดพอสมควร กับราคาค่อนข้างแข็งมากในปีนี้
“จำนำยุ้งฉาง” เก็บข้าวไว้ 1 ล้านตัน จ่ายค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท แลกกับรัฐบาลไม่ต้องจ่ายชดเชยรายได้ชาวนา คุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีก และชาวนาเองจะได้ค่าฝากเก็บด้วยดังนั้นควรที่จะมีโครงการนี้”
ด้านนายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ ผู้ประกอบการโรงสี บริษัท รุ่งทรัพย์พืชผลเทรดดิ้ง จำกัด จังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ได้เดินทางมาถึงภาคอีสานตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.เป็นต้นมาเพื่อจะมาซื้อข้าวหอมมะลิในฤดูนาปี 2562/63 เมื่อต้นฤดูได้เจอภัยแล้ง ต่อมาฝนตกก็ชุ่มชื่นขึ้นมา ถึงแม้ว่าบางพื้นจะถูกน้ำท่วมบ้าง บางพื้นได้รับน้ำฝนไม่เต็มที่บ้าง แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ก็ได้อานิสงส์จากฝน จึงคาดการณ์ว่าผลผลิตจะดีกว่าปีที่ผ่านมา(61/62) ประมาณ10% แต่ ณ เวลานี้กลับพบว่า ข้าวหอมมะลิ (กข.15) ประสบปัญหาโรคไหม้คอรวงข้าวในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดใกล้เคียงบางส่วน
“ทำให้เกษตรกรที่คาดหวัง กลับต้องผิดหวัง อย่างน่าเศร้าเสียดาย ผ่านแล้ง ผ่านฝนมาได้ กับมาเจอกับโรคไหม้คอรวงข้าวเสียอีก ซึ่งก็หวังว่าข้าวหอมมะลิ 105 คงจะไม่ได้รับผลกระทบจากโรคไหม้คอรวงข้าว (แต่ก็ยังไม่แน่ใจ) เพราะจากการสอบถามเกษตรกร บอกว่ายังไม่ได้รับผลกระทบ เท่าที่ประเมินดูมะลิ105น่าจะดีกว่า กข.15 แต่แจ้งว่ามีในบางพื้นที่ที่จะขาดน้ำบ้างในระยะข้าวตั้งท้องอีกด้วย แต่ภาพรวมยังดี”
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า จากเหตุการดังกล่าว จึงไม่แน่ใจว่าปริมาณผลผลิตจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่าไม่คาดคิดมาก่อน คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบจากโรคไหม้คอรวงข้าวข้าว ประมาณ 2-3 แสนไร่ แต่อยากจะตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมถึงไม่มีอาการบ่งบอกล่วงหน้าที่ผ่านมาเลยหรืออย่างไร จึงทำเกิดโรคไหม้คอรวงข้าวขยายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วจนแก้ไขไม่ทัน ทำไมจึงไม่มีการเตรียมการป้องกันก่อน ? หรือป้องกันไม่ได้?
“ข้าวหอมมะลิ (กข.15) ที่เก็บเกี่ยวในขณะนี้ ส่วนใหญ่คุณภาพดี แต่บ้างพื้นที่มีข้าวลีบ ข้าวไม่สมบูรณ์ สุกไม่เสมอเหลืองๆเขียวๆ เป็นปัญหาในการซื้อขายมาก ผู้ซื้อก็หนักใจในการที่จะรับซื้อ ผู้ขายก็นักใจที่ผลผลิตได้รับผลกระทบจากโรคไหม้คอรวงข้าวนี้กันอย่างมาก ขณะนี้การเก็บเกี่ยว กข.15 เก็บเกี่ยวมาระยะหนึ่ง ตอนนี้อยู่ช่วยปลายมือ ส่วน ข้าวหอมมะลิ105ก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวมาก ขึ้นหลังวันที่10พฤศจิกายน62เป็นต้นไป และปีนี้ ทั้งหอมมะลิ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ลงมือเก็บเกี่ยวใกล้เคียงกัน”
อย่างไรก็ตามสุดท้ายหลังจากได้รับผลกระทบโรงพืชโรคแมลงดังกล่าวข้างต้น และบางพื้นที่ที่ข้าวมะลิ 105 ขาดน้ำระยะช่วงตั้งท้อง จึงคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวกลุ่มข้าวหอมมะลิปีนี้ (62/63) ตัวเลขน่าจะกลับไปอยู่ที่ประมาณเดียวกับปี 61/62 หรือไม่เป็นเรื่องที่น่าติดตาม