เตือนก่อนเจ๊ง! รับมือความผันผวนค้าข้าวโลก

05 พ.ย. 2562 | 02:30 น.

นายกโรงสีฯ ส่งสัญญาณเตือนสมาชิกอย่าประมาท ค้าข้าวโลกปัจจัยเสี่ยงเพียบ คู่แข่งชิงเกมเหนือไทยราคาขายถูกกว่าจะมองฝืนทิศทางตลาดหรือมองล้อตลาด ไม่ฟันธง ให้ใช้ดุลยพินิจตัวเอง ระบุสถานะโรงสีอ่อนแอจากเดิมมาก ต้องระมัดระวังซื้อขายให้มากกว่านี้

เตือนก่อนเจ๊ง! รับมือความผันผวนค้าข้าวโลก

นายเกรียงศักดิ์  ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"   วงการค้าข้าวเป็นที่รับรู้กันดีว่าราคาสินค้าเกษตรนั้นผันผวน และตลาดเป็นของผู้ซื้อในต่างประเทศ  อีกทั้งข้าวเป็นสินค้าเกษตรที่สามารถถูกทดแทนได้ (หรือมีคู่แข่งขันมาก และประเทศผู้นำเข้า ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น) ผู้บริโภคโดยเฉพาะตลาดข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดูจะเน้นส่งออกเป็นหลัก ส่วนภายในจะเป็นการบริโภคข้าวเก่า และภาคการส่งออกในส่วนของข้าวขาว5% รวมถึงข้าวนึ่ง ราคาขายต่ำมาก

เตือนก่อนเจ๊ง! รับมือความผันผวนค้าข้าวโลก

"ปีนี้จนถึงสิ้นปี คาดว่าการส่งออกข้าวหอมมะลิจะลดลงเหลือเพียงประมาณ 1.2 ล้านตัน และปริมาณการส่งออกรวมข้าวทุกชนิดปีนี้จะอยู่ที่เพียงประมาณ 8 ล้านตัน จากปกติ 9.5-10 ล้านตัน และบางปีในอดีตนั้นสูงถึง 10-11 ล้านตัน ก็เนื่องจากการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาล"

เตือนก่อนเจ๊ง! รับมือความผันผวนค้าข้าวโลก

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า จากตัวเลขที่ลดลงนี้ก็น่าจะบอกถึงสถานการณ์สถานการณ์ตลาดข้าวไทยที่มีส่วนแบ่งในตลาดโลกลดลง ปริมาณความต้องการซื้อข้าวไทยลดลงกว่าในอดีต แต่หันไปบริโภค/ซื้อข้าวของประเทศคู่แข่งแทน เนื่องจากการแข่งขันที่สูงประกอบกับเมื่อประเทศคู่แข่งกลับเสนอราคาที่ต่ำกว่าเกาะตามหลังไทย ให้ข้าวของไทยเป็นตัวนำราคา ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้ผู้ซื้อมองว่าราคาข้าวของไทยนั้นสูง แต่ราคาข้าวของเพื่อนบ้านกลับน่าดึงดูดกว่า

เตือนก่อนเจ๊ง! รับมือความผันผวนค้าข้าวโลก

โดยทั้งนี้เป็นโจทย์ถามว่าเราจะบริหารมองทิศทางของตลาดอย่างไร จะมองฝืนทิศทางตลาด หรือมองล้อตามตลาดที่ขึ้นกับความต้องการและราคาที่เป็นจริงในตลาดปัจจุบัน  จึงเป็นคำถามว่าปัจจุบันสถานการณ์ตลาดเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อน ดังนั้นเราจึงควรที่จะต้องดูทั้งโครงสร้างระบบข้าวหรือไม่ ตั้งแต่ผู้ผลิต (เกษตรกร) โรงสี ผู้ส่งออก จนถึงความต้องการของตลาด  ซึ่งหากจะแก้ปัญหาทั้งโครงสร้างโดยย้อนกลับไปดูแนวโน้มตลาด ปริมาณและทิศทางราคา ก็หนีไม่พ้นเรื่องของต้นทุนการผลิต สำหรับภาคเกษตรกรก็ควรที่จะเพิ่มปริมาณผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น ให้ตรงกับความต้องการของตลาด และหาตลาดใหม่ๆให้กับข้าวทุกชนิดทุกประเภทไปด้วย เพราะสถานการณ์ข้าวได้เปลี่ยนไปจากอดีตมาก

เตือนก่อนเจ๊ง! รับมือความผันผวนค้าข้าวโลก

ดังนั้นการช่วยเหลือเฉพาะด้านราคาให้แก่ภาคการผลิตเพียงด้านเดียวนั้นจะเพียงพอและสอดรับกันหรือไม่สำหรับทั้งระบบวงจรการค้าข้าว  แต่อยากจะบอกว่าในสภาพความเป็นจริง ณ ปัจจุบัน ผู้ประกอบการโรงสีมีสถานภาพในการดำเนินธุรกิจซึ่งอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอลงจากเดิมมาก ที่สำคัญผู้ประกอบการควรมีการปรับตัวต่อสถานการณ์การค้าข้าวอย่างไร ที่จะยังคงรักษาธุรกิจให้อยู่รอดได้ ในสภาวะความกดดันรอบด้าน เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบโรงสีต้องตระหนักและระมัดระวังในการซื้อขายให้มากกว่าที่เป็นอยู่

เตือนก่อนเจ๊ง! รับมือความผันผวนค้าข้าวโลก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส่งออก ‘ข้าวไทย’ ใกล้อวสาน?