สงครามการค้า ฉุดกำไร SCG ไตรมาส 3 ร่วง 35 %

28 ต.ค. 2562 | 10:18 น.

เอสซีจี เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 62 กำไรลดลง 35 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากการลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์ตามวัฏจักรปิโตรเคมี สงครามการค้าที่ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และเงินบาทที่แข็งค่า

 

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า ผลประกอบการของเอสซีจี ในไตรมาสที่ 3 ปี 2562 มีรายได้จากการขาย 110,330 ล้านบาท ลดลง 10%  จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง แต่เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวด 6,204 ล้านบาท ลดลง 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 12% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลัก,kจากการลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์ เนื่องจากมีส่วนต่างราคาสินค้าปรับตัวลดลง การกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี จำนวน 1,063 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ของบริษัทร่วม สงครามการค้าที่ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เงินบาทที่แข็งค่า


สงครามการค้า  ฉุดกำไร SCG ไตรมาส 3 ร่วง 35 %

                                                       นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส

 

ประกอบกับการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี (assets impairment) จำนวน 762 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำนวน 640 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจเซรามิกในต่างประเทศ ทั้งนี้ หากไม่รวมการกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีดังกล่าว จะทำให้เอสซีจีมีกำไรสำหรับงวด 7,267 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 23 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากไตรมาสก่อน

 

สำหรับผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2562 เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 331,803 ล้านบาท ลดลง 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง โดยมีกำไรสำหรับงวด 24,910 ล้านบาท ลดลง 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ รายการสำคัญในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 ประกอบด้วย ไตรมาสที่ 2 มีรายการปรับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน จำนวน 2,035 ล้านบาท ไตรมาสที่ 3 มีการกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี จำนวน 1,063 ล้านบาท และการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีจำนวน 762 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจเซรามิกในต่างประเทศ ประกอบกับความกังวลจากสงครามการค้าที่ส่งผลกระทบต่อส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ของทั้งบริษัทย่อยและบริษัทร่วม

 

สงครามการค้า  ฉุดกำไร SCG ไตรมาส 3 ร่วง 35 %

 

ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2562 เอสซีจีมียอดขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added Products & Services - HVA) 44,450 ล้านบาท คิดเป็น 40% ของยอดขายรวม ลดลง 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 6% จากไตรมาสก่อน ทำให้ใน 9 เดือนแรกของปี 2562 เอสซีจีมียอดขายสินค้า HVA 137,077 ล้านบาท คิดเป็น 41% ของยอดขายรวม ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ รวมการส่งออกจากประเทศไทย ใน 9 เดือนแรกของปี 2562 ทั้งสิ้น 134,522 ล้านบาท คิดเป็น 41% ของยอดขายรวม ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 มีมูลค่า 611,503 ล้านบาท โดย 35% เป็นสินทรัพย์ในอาเซียน