ดีเซลบี 20 มาแรง คาดทั้งปี 62 โต 7,500%

04 ต.ค. 2562 | 07:28 น.

กรมธุรกิจพลังงาน เผยยอดการใช้น้ำมันช่วง 8 เดือนปีนี้ กลุ่มเบนซินขยายตัว 3.9 % และกลุ่มดีเซล เติบโต 1.7 % ขณะที่การนำเข้าน้ำมันดิบและสำเร็จรูป มีมูลค่า 6.49 หมื่นล้านบาทต่อเดือน

 

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันในรอบ 8 เดือนของปี 2562 (มกราคม – สิงหาคม 2562) เติบโตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561  โดยกลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 3.9% กลุ่มดีเซลหมุนเร็ว เพิ่มขึ้น 1.7% น้ำมัน  อากาศยานเจทเอ1 เพิ่มขึ้น 0.1% และ LPG เพิ่มขึ้น 1.2% ในขณะที่ NGV ลดลง 11.1%

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช

                                               นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช

 

สำหรับการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 32.12 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 3.9% เป็นการเพิ่มขึ้นของน้ำมันกลุ่มเบนซินเกือบทุกชนิด  โดยภาพรวมการใช้น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.14 ล้านลิตรต่อวัน คิดเป็น 4.5% โดยแก๊สโซฮอล์อี 20 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมากที่สุด อยู่ที่ 6.46 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 13.5% เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.97 บาทต่อลิตร จึงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้เพิ่มขึ้น รองลงมาเป็น แก๊สโซฮอล์ อี85 มีปริมาณการใช้ เฉลี่ยอยู่ที่ 1.29 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 11.8% แก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 13.79 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 7.3% ในขณะที่แก๊สโซฮออล์ 91 มีปริมาณการใช้ที่ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 9.60 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 5.0% เนื่องจากราคาแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 ใกล้เคียงกันโดยมีส่วนต่างเพียง 0.27 บาท/ลิตร จึงทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้น้ำมันชนิดที่มีค่าออกเทนสูงกว่า  และน้ำมันเบนซินมีการใช้ลดลงเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 0.98 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 12.5%

 

ดีเซลบี 20 มาแรง คาดทั้งปี 62 โต 7,500%   

การใช้กลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เฉลี่ยอยู่ที่ 64.92 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 1.7% โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (บี7) มีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 62.13 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 2.6% น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 0.005 ล้านลิตรต่อวัน (เริ่มมีการจำหน่ายปลายเดือนพ.ค.62 และในเดือนส.ค. 62 มีการใช้อยู่ที่ 0.39 ล้านลิตร) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 2.78 ล้านลิตรต่อวัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่เดือน ก.ค.61) โดยการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี10 และบี20 ภาครัฐได้ใช้มาตรการกำหนดส่วนต่างราคาขายปลีกให้ถูกกว่าดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (บี7) อยู่ที่ 1 และ 5 บาทต่อลิตร ตามลำดับ โดยในปีนี้ คาดการณ์ว่าการใช้น้ำมันดีเซลบี 20 จะเพิ่มขึ้นถึง 3.8 ล้านลิตรต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 7,500 % จากปี 2561และน้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) มีการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 19.30 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.1%

 

ดีเซลบี 20 มาแรง คาดทั้งปี 62 โต 7,500%

ขณะที่การใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 17.97 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.2% เป็นการเพิ่มขึ้นของการใช้ภาคปิโตรเคมี มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 7.50 ล้านกิโลกรัมต่อวัน คิดเป็น 12.1% สำหรับการใช้ในสาขาอื่นๆ มีปริมาณการใช้ลดลง โดยภาคครัวเรือน มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.79 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลง 2.3% ภาคอุตสาหกรรม มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.81 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลง 3.4% และภาคขนส่งมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2.87 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลง 12.0%

 

การใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 5.55 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน  11.1% เนื่องจากมีการปรับราคา NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทำให้ประชาชนและรถบรรทุกสินค้าหันไปใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์และดีเซลหมุนเร็วบี 20 ทดแทน ส่งผลให้สถานีบริการ NGV นอกแนวท่อทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ดีเซลบี 20 มาแรง คาดทั้งปี 62 โต 7,500%

ส่วนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง มีปริมาณนำเข้ารวมลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ย 8 เดือน อยู่ที่ 916 พันบาร์เรลต่อวัน ลดลง 5.0% โดยมีมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบคิดเป็น 59,648 ล้านบาทต่อเดือน สำหรับน้ำมันสำเร็จรูปมีปริมาณนำเข้าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 80 พันบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 23.1% และมีมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 5,270 ล้านบาทต่อเดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า มีการนำเข้าน้ำมันเบนซิน ดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา และน้ำมันอากาศยานเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่มีการนำเข้า LPG ลดลง เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นและ Emergency Shutdown ทำให้ต้องลดปริมาณการนำน้ำมันดิบเข้ากลั่นกระทบต่อปริมาณการผลิตของผลิตภัณฑ์ทุกชนิดรวมถึง LPG ด้วย ทำให้ต้องมีการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป เพื่อไม่ให้กระทบต่อความต้องการใช้ในประเทศ

 

ทั้งนี้ การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2561 อยู่ที่ 166 พันบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 18.6% มีมูลค่าการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเฉลี่ย 11,283 ล้านบาทต่อเดือน โดยพบว่า มีการส่งออกน้ำมันเบนซิน ดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา และแอลพีจี ลดลง