สต๊อกมะกันล้นโกดัง ‘ดับฝัน’ส่งออกไทย

18 ส.ค. 2562 | 23:20 น.

 

2 แสนบริษัทค้าปลีกมะกัน แห่ตุนสต๊อกสินค้าล้นโกดัง รับขึ้นภาษีจีน 3 แสนล้านดอลลาร์ ส่งสัญญาณลดนำเข้าสะเทือนส่งออกไทย ทูน่า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัวเรือน เสื้อผ้า ยังลุ้นส่งออกเพิ่ม

สงครามการค้าที่สหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้าจีนรวม 6,842 รายการในอัตรา 25% ไปแล้วคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และล่าสุดสหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีน 10% อีก 3,812 รายการ มูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กันยายน และวันที่ 15 ธันวาคม 2562 ตามลำดับนั้น

รายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแองเจลีส สหรัฐอเมริกา เผยว่า จากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯได้สั่งขึ้นภาษีสินค้าจีนจาก 10% เป็น 25% เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 และขู่ที่จะขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ซึ่งกำลังจะมีผลบังคับใช้) ส่งผลให้ในเดือนมิถุนายน 2562 ภาคธุรกิจค้าปลีกสหรัฐฯมากกว่า 2 แสนบริษัท ตั้งแต่ Home Depot ไปจนถึง Walmart ได้สะสมสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 7.9% ถือเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในรอบ 6 ปี ซึ่งสินค้าเหล่านี้ถูกนำเข้าก่อนหน้าฤดูการจำหน่ายเดิมที่ควรจะเป็น ปัจจุบันผู้ค้าปลีกเหล่านี้กำลังประสบปัญหาใหม่คือ แรงกดดันที่จะต้องเร่งเคลียร์สินค้าออกจากสต๊อกให้เร็วที่สุด

นายชัยชาญ เจริญสุข ที่ปรึกษา บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด(มหาชน) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า การที่บริษัทค้าปลีกของสหรัฐฯมีสินค้าในสต๊อกเป็นจำนวนมากจะส่งผลทำให้การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ รวมทั้งจากประเทศไทยลดลงแน่นอน และจะกระทบต่อตัวเลขการส่งออกของไทยในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ที่จะชะลอตัวลงประกอบกับเศรษฐกิจ สหรัฐฯเวลานี้ตามกระแสข่าวกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศจึงมีแนวโน้มลดลง

“ผลทางตรงจากบริษัทค้าปลีกสหรัฐฯมีสต๊อกตุนไว้มาก จะกระทบส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ส่วนผลทางอ้อมคือสินค้าวัตถุดิบที่ไทยส่งให้จีนเพื่อผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปส่งออกต่อไปสหรัฐฯก็จะปรับตัวลดลง ซึ่งในกลุ่มสินค้าที่บริษัทค้าปลีกสหรัฐฯตุนสต๊อกส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภค-บริโภค เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นต้น”

อย่างไรก็ดีจากที่สหรัฐฯเตรียมขึ้นภาษีสินค้าจีน 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้สินค้าจีนจะมีราคาสูงขึ้น ส่วนหนึ่งผู้นำเข้าของสหรัฐฯ ต้องหาแหล่งผลิตอื่นทดแทน ซึ่งไทยอาจได้อานิสงส์หลังสต๊อกของผู้นำเข้า และของบริษัทค้าปลีกในสหรัฐฯลดลงอาจต้องนำเข้าเพิ่ม อาทิ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

สต๊อกมะกันล้นโกดัง  ‘ดับฝัน’ส่งออกไทย

สอดคล้องกับนายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย ที่กล่าวว่า สินค้าเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย อยู่ในกลุ่มสินค้าที่สหรัฐฯจะขึ้นภาษีสินค้าจีน 10% ในวันที่ 15 ธันวาคม 2562 มองเป็นโอกาสที่สินค้ากลุ่มนี้ของไทยจะส่งออกไปทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯได้เพิ่มขึ้น จากผู้นำเข้าที่เคยสั่งซื้อสินค้าจีนอาจหันมานำเข้าสินค้าจากไทย หรือจากประเทศอื่นที่มีคุณภาพดีและต้นทุนถูกกว่ามากขึ้น ซึ่งจากตัวเลขการส่งออกเครื่องนุ่งห่มของไทยไปสหรัฐฯช่วง 6 ดือนแรกปี 2562 ยังขยายตัวได้ถึง 8.5% เป็นเครื่องชี้วัดได้ว่าไทยสามารถส่งออกไปทดแทนสินค้าจีนได้เพิ่มขึ้น

นายอมรพันธุ์ อร่ามวัฒนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สหรัฐฯเป็นตลาดส่งออกใหญ่สุดของทูน่ากระป๋องไทย(สัดส่วนกว่า 20%) ซึ่งผลจากบริษัทค้าปลีกสหรัฐฯ ยังมีสต๊อกสินค้าจำนวนมาก และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว หวั่นการนำเข้าสินค้าทูน่าและอื่น ๆ ของสหรัฐฯจากไทยจะลดลง ประกอบกับเวลานี้ราคาวัตถุดิบทูน่าไม่เสถียร จาก 3 เดือนที่แล้วอยู่ที่ระดับ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ปัจจุบันอยู่ที่ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ตลาดช็อก ลูกค้าชะลอซื้อ(หากยังซื้อก็กดราคา) 

ด้านนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.)กล่าวว่า ทุกครั้งที่สหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีน ยอดนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ในเดือนที่มีการประกาศบังคับใช้มาตรการจะลดลง จากมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นก่อนการขึ้นภาษีมีผลบังคับใช้ ทำให้การนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯจากไทยในเดือนที่เหลือของปีนี้มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3497 วันที่ 18-21 สิงหาคม 2562

สต๊อกมะกันล้นโกดัง  ‘ดับฝัน’ส่งออกไทย