Update ช็อกโลก!! สะพัดวงการยาง ‘วงศ์บัณฑิต’ ปิดกิจการ?

16 ส.ค. 2562 | 09:20 น.

ชาวสวนช็อค สะพัดวงการ “วงศ์บัณฑิต” ปิดกิจการ ผวาไม่มีที่ขายยาง วอนรัฐช่วยเหลือเสริมสภาพคล่อง ตั้งเงื่อนไขช่วยเหลือเกษตรกรไม่กดราคา ชี้ไร้ตลาด อนาคตยางมืดมน

Update ช็อกโลก!! สะพัดวงการยาง ‘วงศ์บัณฑิต’ ปิดกิจการ?

แหล่งข่าววงการค้ายาง เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มีกระแสข่าวว่า บริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด  หนึ่งใน5 บริษัทผู้ผลิตและส่งออกยางพารา ยางธรรมชาติรายใหญ่ของประเทศไทย กำลังจะปิดกิจการ 

 

"ข่าวค่อนข้างที่มีความน่าเชื่อโดยเฉพาะเช็คไปที่รายใหญ่วงการทางภาคใต้ โดยเฉพาะคนที่พูดคุยกันไม่ใช่โนเนมเป็นที่รู้จักในสังคม ส่งผ่านทางแอพลิเคชั่นไลน์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในทำนองที่ว่า “ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และธนาคาร ทำให้จำเป็นต้องหยุดกิจการ แล้วก็ขอบคุณบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่ร่วมกันมากว่า 30 ปี”แหล่งข่าวระบุ

 

สำหรับบริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด  เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกยางพารา ยางธรรมชาติรายใหญ่ของประเทศไทย กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์ และมีฐานการผลิตที่สำคัญๆ อยู่หลายแห่งประกอบด้วย โรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต, ชุมพร และกระบี่ สงขลา อุดรธานี มีผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ อาทิ ยางแผ่น ยางแท่ง และน้ำยางข้น ประมาณ 7.5 แสนตันต่อปี มูลค่าราว 5.6 หมื่นล้านบาท

Update ช็อกโลก!! สะพัดวงการยาง ‘วงศ์บัณฑิต’ ปิดกิจการ?

ด้านนายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย( สยยท.) กล่าวว่า  “ผมคิดว่ารัฐบาลควรที่จะต้องมาช่วยเหลือ ดีกว่าเอาเงินมาแจกฟรี เพราะจะช่วยเหลือเกษตรกรได้จำนวนมามาก ช่วยให้สายป่านยาวหน่อย เพราะในอนาคตจะมาช่วยซื้อเกษตรกรให้ทำเงื่อนไขว่าจะไม่กดราคาเกษตรกร”

Update ช็อกโลก!! สะพัดวงการยาง ‘วงศ์บัณฑิต’ ปิดกิจการ?

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกรณีดังกล่าวนี้ จะเป็นการช่วยนายทุนหรือไม่ นายอุทัย สวนทันทีว่า  “ไม่มีนายทุนพวกนี้เกษตรกรจะขายยางให้กับใคร ขายเองได้หรือไม่ เพราะการที่จะขายยางได้ต้องมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 5-10 ปี ตลาดมีอยู่แล้ว เพราะถ้าบริษัทล้มก็เปลี่ยนอาชีพใหม่ แล้วเกษตรกรเปลี่ยนอาชีพได้หรือไม่"

Update ช็อกโลก!! สะพัดวงการยาง ‘วงศ์บัณฑิต’ ปิดกิจการ?

ล่าสุด ท.พ.พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต  กรรมการผู้จัดการบริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ตามปรกติ ข่าวที่ได้รับเป็นเพียงการปรับกำลังการผลิตตามสภาวะตลาด และผลผลิตที่ลดลงของประเทศไทยและของโลก ดังนั้นจำเป็นต้องปรับตัวให้ใช้ทรัพยากรทุกอย่าง อย่างมีประสิทธิภาพ ตามระบบเศรษฐกิจของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว