เตรียมตั้ง กรอ.พาณิชย์ หวังลดอุปสรรคการค้า

19 ก.ค. 2562 | 09:15 น.

จุรินทร์ เดินเครื่องเตรียมตั้งกรอ.พาณิชย์ หวังช่วยปลดล็อกอุปสรรคการค้าและผลักดันการส่งออกให้ได้ตามเป้า คาดประชุมนัดแรกหลังรัฐบาลแถลงนโนบาย ยังไม่ฟันธงปรับเป้าส่งออก 3% ขอดูหารือร่วมทุกฝ่ายก่อน แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าหลังจาก เข้ารับตำแหน่งตนได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ทันที พร้อมหารือหน่วยงานในสังกัด เพื่อเดินหน้า 4 นโยบายเร่งด่วน หนึ่งในงานสำคัญคือการเร่งรัดการส่งออก เนื่องจากมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน หรือ กรอ.เฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ดำเนินการ เชิญภาคเอกชน เช่น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เข้ามาร่วมใน กรอ.ชุดนี้ เพื่อใช้เป็นเวทีในการช่วยปลดล็อกอุปสรรคทางการค้า เพราะเอกชน เป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อการส่งออก ส่วนภาครัฐ จะเป็นผู้สนับสนุนกลไกต่างๆให้มีความสะดวกมากขึ้น ในเบื้องต้น ให้เร่งจัดตั้ง และเริ่มประชุมนัดแรกทันที หลังรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หรือภายในต้นเดือนหน้า โดยวางเป้าหมาย จะให้มีการประชุมร่วมกันทุกเดือน ซึ่งตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นประธานด้วยตนเอง เพื่อแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว ซึ่งหากแก้ได้ในระดับกระทรวงก็จะดำเนินการทันที หรือ เสนอแนวทางต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหา เพื่อเร่งรัดการส่งออกให้เกิดเป็นรูปธรรมมากที่สุด ขณะเดียวกัน ต้องขับเคลื่อนการค้าชายแดน เพื่อสนับสนุนการส่งออกในภาพรวมของประเทศด้วย  ส่วนการจะทบทวนเป้าหมายการส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์ ตั้งไว้ที่ 3%  หรือไม่นั้น ยังต้องรอความชัดเจนภายหลังหารือร่วมกับทุกฝ่ายอีกครั้ง แต่จะพยายามทำให้การส่งออกไปได้ดีที่สุด

ขณะที่ นโยบายประกันรายได้ เบื้องต้นมีรายละเอียดอยู่แล้ว เนื่องจากเคยทำในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์  ซึ่งจะมีการกำหนดสินค้าเกษตรสำคัญในภาพรวม แต่ในแนวทางปฏิบัติต้องมีเงื่อนไขของพืชแต่ละชนิด และจะนำมาตรการออกมาใช้ในช่วงที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนการดูแลค่าครองชีพ จะเน้นให้ราคาสินค้าและบริการให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย / และอีก 1 งานเร่งด่วน คือ การเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่ยังค้างอยู่ โดยเฉพาะความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาเซ็บ ที่ในช่วงปลายเดือนนี้ มีกำหนดเดินทางไปประชุมประเทศจีน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย จะต้องเป็นประธาน เพื่อเร่งพิจารณาใน 20 ประเด็น ให้ได้สรุปการเจรจาอาเซ็บ ภายในสิ้นปีนี้