ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจริยะ กรมชลประทานรายงานสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประจำวันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2562 ถึงสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำลุ่มเจ้าพระยา ใน 4 เขื่อนหลักได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 8,293 ล้านลูกบาศก์เมตร( ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 33 (ปริมาณน้ำใช้การได้ 1,597 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 9) ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ จำนวน 2.71 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบายจำนวน 44.91 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีก 16,578 ล้าน ลบ.ม.
แยกได้ดังนี้คือ เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำ 4,710 ล้าน ลบ.ม. (35% ของความจุอ่างฯ) เป็นน้ำใช้การได้ 910 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 0.00 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบาย 23.00 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีก 8,752 ล้าน ลบ.ม. , เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำ 3,388 ล้านลบ.ม. (36% ของความจุอ่างฯ) เป็นน้ำใช้การได้ 538 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 2.71 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบาย 19.05 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีก 6,122 ล้าน ลบ.ม., เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำ 147 ล้าน ลบ.ม. (16% ของความจุอ่างฯ) เป็นน้ำใช้การ ได้ 104 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 0.00 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบาย 2.16 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีก 792 ล้าน ลบ.ม. และ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำ 48 ล้าน ลบ.ม. (5% ของความจุอ่างฯ) เป็นน้ำใช้การได้ 45 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 0.00 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบาย 0.70 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีก 912 ล้าน ลบ.ม.
ด้านสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง (447 แห่งทั่วประเทศ)ประจำวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ปริมาตรน้ำในอ่างฯ รวม 36,429 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 48 (ปริมาตรน้ำใช้การได้ 12,516 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 24) ปริมาตรน้ำในอ่างฯ เทียบกับปี 2561 (46,970 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 62) น้อยกว่าปี 2561 จํานวน 10,541 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 53.03 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบาย 124.01 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีก 39,639 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้ในจำนวนดังกล่าว ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่(35 แห่ง) มีปริมาตรรวม 34,590 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 49 (ปริมาตรน้ำ ใช้การได้ 11,057 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 23) ปริมาตรน้ำในอ่างฯ เทียบกับปี 2561 (44,007 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น ร้อยละ 62) น้อยกว่าปี 2561 จํานวน 9,416 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯจํานวน 45.28 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบาย 111.62 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีก 36,336 ล้าน ลบ.ม.
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ ภาคตะวันออก และคลื่นลมแรง (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 19 กรกฎาคม 2562)" ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ระบุบริเวณภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวัง อันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากไว้ด้วย ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้