คิกออฟ!รถไฟสาย“บ้านไผ่-นครพนม”  ปลุกเศรษฐกิจอีสาน เชื่อมโยง5ประเทศ

21 มิ.ย. 2562 | 07:02 น.

วันนี้ (21 มิ.ย.62) เวลา 09.00 น. ณ โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว จังหวัดนครพนม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจในโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ – มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร - นครพนม เพื่อนำเสนอข้อมูลให้ประชาชนทราบถึงความก้าวหน้าของการพัฒนาโครงการฯ พร้อมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการ โดยมีหน่วยงานรัฐและเอกชนเข้าร่วมกว่า 300 คน
 
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ปาฐกถา ในหัวข้อ “สิ้นสุดการรอคอย รถไฟทางคู่สายใหม่บ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม ของชาวอีสาน” โดยกล่าวถึงโครงการนี้ว่าเป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ ที่ได้รับการบรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี 

 คิกออฟ!รถไฟสาย“บ้านไผ่-นครพนม”  ปลุกเศรษฐกิจอีสาน เชื่อมโยง5ประเทศ

โดยมีระยะทาง 355 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 70 ตำบล 19 อำเภอ ของ 6 จังหวัด มีสถานีรถไฟ 18 สถานี แบ่งเป็นสถานีขนาดใหญ่ 4 สถานี (มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหารและนครพนม) สถานีขนาดกลาง 5 สถานี และสถานีขนาดเล็ก 9 สถานี มีป้ายหยุดรถ 12 แห่ง มีย่านกองเก็บและบรรทุกตู้สินค้า 6 แห่ง ด้านความปลอดภัย โครงการได้มีการออกแบบให้มีสะพานรถไฟข้ามถนน/ถนนเลียบคลอง 158 แห่ง มีสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ 81 แห่ง มีทางลอดทางรถไฟ 245 แห่ง และมีทางบริการขนานทางรถไฟ 165 แห่ง 

 

ส่วนขั้นตอนการดำเนินงาน ภายหลังจาก ครม. อนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา  จะมีการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน จากนั้น ในปี 2563 จะเริ่มจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และเริ่มดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2567

หลังจากนั้น จึงเป็นการเปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองในหัวข้อ “บ้านไผ่ - มุกดาหาร – นครพนม ทางรถไฟ 5 ประเทศ เพื่อคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจระดับสากล”

 คิกออฟ!รถไฟสาย“บ้านไผ่-นครพนม”  ปลุกเศรษฐกิจอีสาน เชื่อมโยง5ประเทศ

โดย นายทักษ์ ศรีรัตโนภาส ผู้อำนวยการด้านโครงการร่วมทุนและการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มมิตรผล ที่นำเสนอเกี่ยวกับโอกาสของภาคอุตสาหกรรมการเกษตรในภาคอีสาน และการเติบโตของกลุ่มมิตรผล อันนำมาซึ่งโอกาสที่จะใช้ระบบรางในการขนส่งสินค้าเพื่อช่วยลดต้นทุนให้แก่ธุรกิจ 

ด้านนายชัยพล เกิดวงศ์บัณฑิต กรรมการบริหาร บริษัท เอ็นเทคโพลีเมอร์ จำกัด และรองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดมุกดาหาร ที่มาเน้นย้ำถึงศักยภาพของภาคอีสาน ในการเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมการเกษตร และโอกาสที่เพิ่มขึ้นภายหลังจากมีรถไฟสายนี้ นอกจากนี้ ชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องในประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย 

ส่วนนายมงคล ตันสุวรรณ กรรมการรองเลขาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย ที่สะท้อนภาพสถานการณ์ของภาคธุรกิจท้องถิ่นของจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียงตามแนวเส้นทางรถไฟ โอกาสด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากที่รถไฟก่อสร้างเสร็จ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง ด้านการค้าชายแดน ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น 

 คิกออฟ!รถไฟสาย“บ้านไผ่-นครพนม”  ปลุกเศรษฐกิจอีสาน เชื่อมโยง5ประเทศ

สำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่ – มหาสารคาม – ร้อยเอ็ด – มุกดาหาร –นครพนม ยังเป็นหนึ่งในโครงการเร่งรัดการพัฒนารถไฟทางคู่ เพื่อเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก – ตะวันตก เพื่อรองรับนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาลและการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางและตอนบน ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติงบ 6.6 หมื่นล้านบาทในการดำเนินการ ซึ่งเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะช่วยให้ประชาชนเดินทางสะดวกสบายขึ้น ผู้ประกอบการมีทางเลือกในการขนส่งและโลจิสติกส์สินค้า เพิ่มรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และยังเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสการค้าและการท่องเที่ยวระดับโลกอีกด้วย