ผู้ผลิตเหล็กGIช็อก!! รัฐไม่ไต่สวนต่อ อ้างไม่ปรากฏชัดว่าเสียหาย

31 พ.ค. 2562 | 09:04 น.

วงการเหล็ก GI ซึม!!! กรมการค้าต่างประเทศไม่ไต่สวนต่อ อ้างยังไม่ปรากฏอย่างชัดแจ้งว่ามีความเสียหายอย่างร้ายแรงที่คุกคามอุตสาหกรรมภายใน  สวนทางความจริงที่บางบริษัทขาดทุนและเลิกกิจการไปก่อนหน้านั้นแล้ว

 

        แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมเหล็กเปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า เมื่อเร็วๆนี้นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ  ได้มีหนังสือถึง  กรรมการผู้จัดการบริษัท อภิสิทธิ์ แอนด์ อัลลายแอนซ์ จำกัด ในฐานะผู้รับมอบอำนาจ    บริษัท โพสโค โค้ทเต้ด สตีล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท กรุงเทพผลิตเหล็ก จำกัด (มหาชน) บริษัท ราชสีมาผลิตเหล็ก จำกัด และบริษัท ไทยแลนด์ไอออนเวิคส์ จำกัด (มหาชน) ถึงผลการพิจารณาคำขอให้พิจารณาดำเนินการกำหนดมาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นและรีดร้อนเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน (GI) ที่เพิ่มขึ้น ตามที่ บริษัท อภิสิทธิ์ แอนด์ อัลลายแอนซ์ จำกัด ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทโพสโค โค้ทเต้ด สตีล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท กรุงเทพผลิตเหล็ก จำกัด (มหาชน) บริษัท ราชสีมาผลิตเหล็ก จำกัด และบริษัท ไทยแลนด์ไอออนเวิคส์ จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำขอให้พิจารณาดำเนินการกำหนด มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นและรีดร้อนเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน (GI) ที่เพิ่มขึ้นนั้น

ผู้ผลิตเหล็กGIช็อก!! รัฐไม่ไต่สวนต่อ อ้างไม่ปรากฏชัดว่าเสียหาย

         กรมการค้าต่างประเทศได้ชี้แจงว่า กรมฯ ได้เสนอคำขอดังกล่าวต่อคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้องแล้ว โดยมีมติรับคำขอให้พิจารณาดำเนินการกำหนดมาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้า เหล็กแผ่นรีดเย็นและรีดร้อนเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน (GI) ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจาก คำขอมีรายละเอียดและหลักฐานครบถ้วนถูกต้องแล้ว ตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติมาตรการปกป้อง จากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นพ.ศ.2550 แต่มีความเห็นว่าไม่ให้กรมการค้าต่างประเทศดำเนินการไต่สวนต่อไป แม้จะพบว่ามีการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น   เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากหลักฐานที่ผู้ยื่นคำขอเสนอมาประกอบกับเงื่อนไขพิจารณาความเสียหายตามมาตรา 17 ประกอบมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติมาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นพ.ศ.2550 แล้ว ยังไม่ปรากฏอย่างชัดแจ้งว่ามีความเสียหายอย่างร้ายแรงที่คุกคามอุตสาหกรรมภายใน

แหล่งข่าวจากกลุ่มผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็นเคลือบสังกะสี (GI) เผยว่า ขณะนี้ เหล็ก GI มียอดนำเข้ามาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึงหลัก 1 ล้านตันต่อปี  หรือมากกว่านี้แล้ว ทำให้กดดันผู้ผลิตเหล็ก GI ในประเทศ เนื่องจากราคาเหล็กดังกล่าวนำเข้ามาถูกกว่าซื้อในประเทศ 2,000-3,000 บาทต่อตัน อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปีก่อน จากที่ตลาดในประเทศซื้อขายอยู่ที่ราคาตั้งแต่ 27,000-34,000 บาทต่อตัน ที่ส่วนใหญ่ลูกค้ามาจากกลุ่มผู้ผลิตท่อเหล็ก เฟอร์นิเจอร์ กลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า

“เวลานี้ผู้ผลิตในประเทศ 8-10 ราย กำลังเผชิญปัญหาการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ทั้งที่มีกำลังผลิตรวมในประเทศราว 1 ล้านตันต่อปี ซึ่งเพียงพอต่อการใช้ในประเทศ แต่กลับถูกแข่งขันโดยการนำเข้ามาขายในราคาต่ำกว่าในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเป็นล้านตันต่อปี ทำให้หลายบริษัทเผชิญภาวะขาดทุน และก่อนหน้านี้ก็มีบางรายเลิกกิจการไป ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าเรามีปัญหา  ”

ด้านสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลว่า  ปัจจุบันการนำเข้าเหล็กGI สูงขึ้นต่อเนื่องและส่วนใหญ่มาจาก 3 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน โดยข้อมูลปริมาณการนำเข้า GI ปี 2561 ทั้งปีมีปริมาณนำเข้ารวมทั้งสิ้น 1,398,819 ตัน โดยมาจากประเทศหลักๆคือจีนจำนวน 761,885 ตัน ,ญี่ปุ่น จำนวน 377,648 ตัน, เกาหลี จำนวน 143,104 ตัน และไต้หวัน จำนวน 116,111 ตัน

ผู้ผลิตเหล็กGIช็อก!! รัฐไม่ไต่สวนต่อ อ้างไม่ปรากฏชัดว่าเสียหาย