เทรดวอร์ส่อยาว ททท.ดึงทัวร์จีน รุกผ่านอาลีเพย์
“ทรัมป์” สั่งบี้จีนหนัก จากหัวเว่ยลามโดรน-กล้องวงจรปิดอัดละเมิดสิทธิฯอุยกูร์ เป้าทุบเศรษฐกิจ สังคม การเมืองแดนมังกรเดี้ยง ตีกันผงาดเบอร์ 1 โลก ททท.ลุ้นเป้าจีนเที่ยวไทย 12 ล้านคนหลังพบสัญญาณบวกเที่ยวบินสหรัฐฯ-จีนวูบ จับมืออาลีเพย์อัดโปรฯแรง
สงครามการค้ายังยื้อต่อ ไปหลังสหรัฐฯและจีนสั่งขึ้นภาษีสินค้าของอีกฝ่ายจาก 10% เป็น 25% รวมฝ่ายละมากกว่า 5,000 รายการ ถัดมาสหรัฐฯสั่งห้ามบริษัทสัญชาติอเมริกันทำธุรกรรมกับหัวเว่ยยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน ก่อนกลับลำตัดผ่อนปรนคำสั่งเป็นการชั่วคราว 90 วัน หลังทุบหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฯสหรัฐฯดิ่งเหว
ขณะที่สหรัฐฯประกาศเตรียมขึ้นภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติมอีกกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3,800 รายการ) ซึ่งจะจัดรับฟังความคิดเห็นเดือนมิถุนายนนี้
รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและการเมือง เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นอกจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯจะสั่งทำสงครามการค้ากับจีนเพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลการค้ากับจีน และลามสู่สงครามเทคโนโลยีในกรณีของหัวเว่ยแล้ว สหรัฐฯยังเดินเกมเล่นงานสินค้าเทคโนโลยีของจีนต่อเนื่อง ล่าสุดกำลังเพ่งเล็งอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ที่บริษัทจีน(บริษัทดีเจไอฯ) เป็นผู้นำตลาดโดรนในสหรัฐฯ อ้างเป็นภัยต่อธุรกิจและหน่วยงานของสหรัฐฯ
นอกจากนี้สหรัฐฯกำลังพิจารณาขึ้นบัญชีดำ 5 บริษัทกล้องวงจรปิดและบริษัทด้านเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าที่จีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก รวมถึงกล่าวหาจีนละเมิดสิทธิมนุษยชนชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯต้องการให้จีนเกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปัญหาด้านสังคม ปัญหาการเมืองระหว่างประเทศไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจอ่อนแอลง ไม่สามารถเบียดสหรัฐฯขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลกได้
“อย่างไรก็ดีในการประชุมกลุ่ม G20 ช่วงวันที่ 28-29 มิถุนายนนี้ หากผู้นำจีนและสหรัฐฯได้พบปะเจรจากันอาจช่วยคลี่คลายสถานการณ์ลงได้เร็วขึ้น ขณะที่เป้าหมายต่อไปของสหรัฐฯ คือการทำสงครามการค้ากับสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งล่าสุดสหรัฐฯได้ชะลอการขึ้นภาษีรถยนต์จากอียูออกไป 6 เดือน เพื่อเปิดศึกกับจีนอย่างเต็มที่ก่อน ส่วนไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เกินดุลการค้าสหรัฐฯต่อเนื่องก็มีความเสี่ยงอาจถูกสหรัฐฯตอบโต้ในอนาคต”
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) กล่าวว่า การขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ-จีนเป็น 25% มีสินค้าที่ไทยเป็นห่วงโซ่อุปทาน(ซัพพลายเชน)ให้กับจีนจะได้รับผลกระทบส่งออกได้ลดลงมากขึ้น ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ ยางพาราและพลาสติก ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ส่วนสินค้าที่ไทยมีโอกาสส่งออกไปสหรัฐฯทดแทนสินค้าจีนได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ สินค้าอุปโภค-บริโภค อาหารสดและอาหารแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์โลหะ และวัสดุก่อสร้าง
ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) รายงานการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนเมษายน 2562 ทำได้ 67,114 คัน ถือเป็นยอดตํ่าสุดรอบ 24 เดือน ขณะที่เครื่องยนต์มีมูลค่าการส่งออก 2,720 ล้านบาท ลดลง 15.46% และชิ้นส่วนรถยนต์ มูลค่าการส่งออก 14,462 ล้านบาท ลดลง 12.19%
นางอัชณา ลิมป์ไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทย โอโตซีทส์ อินดัสตรี จำกัด และอดีตนายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย กล่าวว่า สงครามการค้ามีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ เห็นได้จากยอดส่งออกลดลง เพราะที่ผ่านมาไทยส่งชิ้นส่วนไปจีนเป็นจำนวนมาก
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เปิดเผยว่า เทรดวอร์กับเทควอร์ ระหว่างจีนและสหรัฐฯที่เกิดขึ้นอาจมีผลทำให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งสำนักงานของททท.ในต่างประเทศติดตามเรื่องนี้อยู่ โดยระยะสั้น น่าจะส่งผลทางบวกต่อไทย เนื่องจากพบว่าจำนวนเที่ยวบินระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นักท่องเที่ยวจีนมองเที่ยวอื่นทดแทน ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาสำนักงานทั้ง 5 แห่งในจีนก็มีแผนกระตุ้นตลาดที่ทำร่วมกับเอเย่นต์จีนในการขายแพ็คเกจมาไทยอยู่แล้วก่อนหน้านี้ เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงปิดเทอมจีน และวันชาติจีนในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้
นอกจากนี้ในวันที่ 27 พ.ค.2562 ททท.จะลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับบริษัท Alipay (Hangzhou)Technology Co.,Ltd โดยจะมีการโปรโมทการท่องเที่ยวไทย เพื่อกระตุ้นให้สมาชิกของAlipayที่เป็นระดับโกลด์,แพลตตินัม ที่มี 100 กว่าล้านคนมาเที่ยวเมืองไทย รวมถึงการอำนวยความสะดวกในเรื่องการของการทำVisa on Arrival (VOA) ลดกระบวนการรอคิว และหากหักค่าธรรมเนียมวีซ่าVAO รวมถึงเรื่องของการคืนภาษีผ่านAlipay ซึ่งททท.กำลังอยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ในปี 2561 จีนเที่ยวไทย 10.5 ล้านคน ไตรมาสแรกปี 2562 อยู่ที่ 3.11 ล้านคน -1.72% จากตลอดทั้งปีนี้คาดจะมีจีนมาเที่ยวไทย 11-12 ล้านคน
หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,473 วันที่ 26 - 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
