หอการค้า ชี้ 2 ปัจจัยเสี่ยงกระทบไทย FTA เวียดนาม-ยุโรป และสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ทำส่งออกไทยลดฮวบทั้งปี เหลือ 0.5-1% พร้อมจับตาจีนลดค่าเงินหยวนทำสินค้าจีนทะลักเข้าไทยในอนาคต
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การเปิดเขตการค้าเสรี หรือ FTAเวียดนาม-ยุโรป ที่จะมีผลบังคับใช้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยไปยังยุโรปในช่วงปี 2562-2564 ทำให้การส่งออกลดลงเฉลี่ยปีละ 0.8% โดยครึ่งปีหลังของปีนี้มูลค่าการส่งออกจะหายไป 21,525 ล้านบาทและในอีก2 ปีข้างหน้าจะหายไปมูลค่า 38,606 ล้านบาท โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และอุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ
นอกจากนี้ผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ยังจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกปี 2562 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.3-3.5% เหลือไม่ถึง3% โดยสินค้าไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบในทั้งสองตลาด โดยตลาดจีน สินค้าที่จะส่งออกลดลงได้แก่ ยางและผลิตภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ขณะที่ส่งออกเพิ่มได้แก่กลุ่มผลไม้สดและแปรรูป เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อาหารสัตว์ ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ สินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องจักร และสินค้าที่จะส่งออกได้มากขึ้น ได้แก่ ผลไม้สดและแปรรูป ชิ้นส่วนยานยนต์ ยางและผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจากทั้งสองปัจจัยคาดว่าจะทำให้การส่งออกของไทยเพียง 0.5-1% ต่ำสุดในรอบ4 ปี แต่หากสหรัฐเก็บภาษีเพิ่มอีก 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯและจีนเพิ่มภาษีนำเข้าอาจะทำให้การส่งออกไทยทั้งปี โตต่ำกว่า 0.5% จะหรือไม่ขยายตัวเลย จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.2-4.6%
อัทธ์ พิศาลวานิช
ทั้งนี้ต้องติดตามว่าในอนาคต จีนจะลดค่าเงินหยวนหรือไม่ โดยอาจจะลดลงอีก 20-25% ให้ครอบคลุมกับภาษีที่ถูกเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้สินค้าจีนถูกลงและทะลักเข้ามาในไทยและย้ายฐานการผลิตเข้ามาในภูมิภาค CLMV มากขึ้น รวมทั้งเพิ่มมาตรการกีดกันทางการค้ากับประเทศอื่นๆมากขึ้น โดยไทยควรจะต้องทำ FTA กับยุโรปโดยด่วน และกระจายการส่งออกไปยังกลุ่ม ประเทศ บราซิล รัสเซีย อินเดีย และแอฟริกาใต้ ส่วนสินค้าไทยจะต้องทำยุทธศาสตร์แบบราคาต่ำแต่คุณภาพสูง