1 ปีเทรดวอร์สูญ 2.5 หมื่นล้าน มะกันขึ้นภาษีจีน 10 สินค้าไทยลุ้นส่งออกเพิ่ม
พาณิชย์หวังจีน-สหรัฐฯ ถอยคนละก้าว สร้างบรรยากาศค้าโลก สรท.เผย 1 ปีสงครามการค้า ส่งออกไทยลดลงสุทธิ 2.5 หมื่นล้านบาท ชี้สหรัฐฯ ขึ้นภาษีจีน 25% มองมุมบวกสินค้าไทยมากกว่า 10 รายการไทยมีโอกาสส่งออกเพิ่ม สภาหอฯประเมินไตรมาส 2 ส่งออกยังวูบ
โลกระทึกหลังสหรัฐฯ เดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนจากอัตรา 10% เป็น 25% มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมสินค้ากว่า 5,700 รายการแล้ว ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ตามเวลาในสหรัฐฯ ท่ามกลางความประหลาดใจของทั่วโลกที่ก่อนหน้านี้มองกันว่าสถานการณ์การเจรจาการค้าของทั้งสองฝ่ายกำลังคลี่คลายไปในทางที่ดี ขณะระหว่างวันที่ 9-10 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองฝ่ายก็ยังอยู่ระหว่างการเจรจา ส้่งผลให้บรรยากาศการค้าโลกกลับมาตรีงเครียดอีกครั้ง
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทางกรมได้ติดตามสถานการณ์สงครามการค้าอย่างใกล้ชิด โดยมุ่งหวังการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้ง 2 ฝ่ายหากสามารถตกลงกันได้จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีต่อการค้าและการลงทุนของโลกแต่หากตกลงกันไม่ได้และสหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้าจีนก็จะสร้างความตึงเครียดต่อบรรยากาศทางการค้าในรอบใหม่
“เนื่องจากไทยเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานการผลิตของโลก คงจะต้องติดตามใกล้ชิดว่าจีนจะตอบโต้สหรัฐฯอย่างไร จะก่อให้เกิดการเบี่ยงเบนทางการค้า หรือมีการย้ายฐานการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงไปยังประเทศที่ 3 หรือไม่ แต่ในภาพรวมหากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจีนคาดว่าไทยน่าจะสามารถขยายการส่งออกไปสหรัฐฯเพื่อทดแทนสินค้าจีนได้เพิ่มขึ้น ทางกลับกันไทยอาจส่งสินค้าวัตถุดิบไปจีนได้น้อยลง ขณะเดียวกันหากจีนพิจารณาย้ายฐานการผลิตเพื่อเลี่ยงภาษีสูงในการส่งออกจากจีนไปสหรัฐฯ ไทยอาจเป็นตัวเลือกหนึ่งที่จะได้รับอานิสงส์”
สำหรับมูลค่าการค้าไทย-จีน ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้มีมูลค่ารวม 1.82 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวลดลง 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออก 6,694 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 9.1% นำเข้า 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 1.2% สินค้าไทยที่ส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้น เช่น เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้ส่วนสินค้าไทยที่ส่งออกไปจีนลดลง เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เคมีภัณฑ์ และยางพารา เป็นต้น
ส่วนภาพรวมการค้าไทย-สหรัฐฯ ช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่ารวม 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออก 8,785 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 32% (ผลจากการส่งออกอาวุธของสหรัฐฯที่นำเข้ามาร่วมซ้อมรบคอบร้าโกลด์) นำเข้า 5,725 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 48% โดยสินค้าที่ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์ และชิ้นส่วนเครื่องจักรกล เป็นต้น
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สงครามการค้าที่กลับมาปะทุอีกครั้ง จากที่จีนประกาศจะขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯเป็น 25% เพื่อตอบโต้นั้น ไทยอาจจะได้รับผลกระทบในทางอ้อมบ้างแต่คงไม่มาก แต่ภาพรวมการส่งออกไทยในไตรมาส 2 น่าจะลดลงกว่าปีที่ผ่านมา
ขณะที่นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) กล่าวว่าการขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 25% ในครั้งนี้ การส่งออกของไทยจะได้รับผลกระทบทั้งด้านบวก และด้านลบ โดยด้านบวกเป็นโอกาสสินค้าไทยจะส่งออกไปทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯในกลุ่มที่ถูกขึ้นภาษีมากขึ้น แต่ด้านลบสินค้ากลุ่มวัตถุดิบของไทยไปจีนเพื่อนำไปผลิตสินค้าส่งออกต่อไปสหรัฐฯจะส่งออกได้ลดลงมากขึ้น แต่ก็ยังมีสินค้าไทยที่ยังมีโอกาสในตลาดจีน เช่น ผลไม้แปรรูป ผลไม้สด เป็นต้น
อย่างไรก็ดีจากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ระบุ สงครามการค้าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีผลทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยลดลงสุทธิ 780 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.57 หมื่นล้านบาท คำนวณที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) (ดูกราฟิกประกอบ) สินค้าไทยที่มีโอกาสส่งออกทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ในจีนเพิ่มเติมจากการขึ้นภาษีเป็น 25% มีมากกว่า 10 รายการ อาทิ กลุ่มสินค้าเกษตร เช่น เนื้อสัตว์ ปลาและอาหารทะเล ผลไม้ กาแฟ ชา ไขมัน ของปรุงแต่ง (ซอสต่างๆ) เครื่องดื่ม นํ้าตาล และขนมทำจากนํ้าตาล เป็นต้น
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,469 วันที่ 12-15 พฤษภาคม 2562