ทำไม? ห้ามชาวนาปลูกข้าวหอมพวง

06 พ.ค. 2562 | 12:40 น.

เต้น! ห้ามชาวนาปลูกข้าวหอมพวง หวั่นเสียโอกาส ชี้พันธุ์ข้าวมีมากทั้งรับรองพันธุ์และไม่ได้รับรองพันธุ์ข้าว แต่จะมีสักกี่พันธุ์ที่ตอบโจทย์ชาวนาขายได้ราคาดี โรงสีรับซื้อในราคาสูง แนะเปิดใจ หากกรมการข้าวพิสูจน์แล้วไม่มีหลักฐานใดเป็นของชาติไหน ให้เร่งรับรองตกเป็นของชาติไทยโดยเร็ว

ทำไม? ห้ามชาวนาปลูกข้าวหอมพวง

นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังจากที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์ นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เกี่ยวกับกรณี “ข้าวหอมพวง” โดยเกษตรจังหวัดห้ามชาวนาปลูกนั้น ผมซึ่งอยู่ในฐานะโรงสีผู้มีหน้าที่รับซื้อข้าวเปลือกทุกชนิดจากเกษตรกรในทุกฤดูกาลผลิตที่เกษตรกรนำมาขายขอเเสดง ความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวเป็นคำถาม เป็นข้อคิด ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์บ้าง

ทำไม? ห้ามชาวนาปลูกข้าวหอมพวง

“เราต้องทำเข้าใจก่อนว่าเรามีพันธุ์ข้าวจำนวนมาก ทั้งที่ผ่านการรับรองจากกรมการข้าวแล้ว และอีกมากเช่นกันที่ยังคงไม่ผ่านการรับรองจากกรมการข้าว   ทั้งนี้แต่ละพันธุ์มีความโดดเด่นเฉพาะและเหมาะกับแต่ละพื้นที่หรือความพอใจของเกษตรกร  ดังนั้นต่างก็มีการนำมาเพาะปลูกกันอยู่อย่างมากมายหลายสายพันธุ์” 

ทำไม? ห้ามชาวนาปลูกข้าวหอมพวง

ข้าวที่ได้รับการรับรองพันธุ์นั้น มีทั้งพันธุ์ที่เกิดขึ้นจากความรู้และความสามารถของนักวิจัยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่บุคลากรของกรมการข้าว  และจากนักวิจัยจากสถาบันต่างๆ และก็มีอีกหลายพันธุ์เช่นกันที่นำมาจากพันธุ์ที่เกษตรกรปลูกในแต่ละท้องถิ่นหรือแต่ละพื้นที่ โดยผ่านการนำมาคัดสรรพันธุ์ของเจ้าหน้าที่กรมการข้าวเป็นผู้ทำหน้าที่คัดแยกก่อน และจึงถูกนำมารับรองพันธุ์โดยกรมการข้าว (ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ไม่ได้คิดค้นขึ้นมาใหม่แต่อย่างใด และก็มีหลากหลายชนิดพันธุ์ที่ในที่สุดได้ผ่านการรับรอง จึงนำไปให้เกษตรกรนำไปเพาะปลูก)

ทำไม? ห้ามชาวนาปลูกข้าวหอมพวง

ทั้งนี้พันธุ์ข้าวที่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรคือพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรปลูกแล้วให้ผลผลิตดี มีตลาดรองรับ ขายได้ราคา อายุการเพาะปลูกไม่มากเกินไป มีความต้านทานโรค ต้นไม่สูงไม่ล้มง่าย ถ้ามีพันธุ์ข้าวที่ตอบสนองเกษตรกรได้เช่นนี้ เราก็ควรที่จะนำมาทำพันธุ์คัดและขยาย รีบขึ้นทะเบียนรับรองพันธุ์ให้เกษตรกร จะเป็นสิ่งที่ดีกว่าหรือไม่ และสามารถทำได้หรือไม่ แต่ในอีกด้านหนึ่งที่ขณะนี้มีกระแสข่าวว่า “พันธุ์ข้าวชนิดนั้น/พันธุ์นี้ เราไม่ได้คิดค้นวิจัยขึ้นมาเอง เป็นพันธุ์ที่ไม่ได้รับการรับรองพันธุ์จึงไม่สมควรนำมาให้เกษตรกรปลูก” จึงอย่างให้วิเคราะห์ว่าการคำนึงถึงแต่เรื่องใครวิจัยหรือการถูกรับรองหรือไม่รับรองแล้วอย่างไร มองเพียงด้านเดียว นั้นเพียงพอ ถูกต้องแล้วหรือไม่ ? และเราได้พิสูจน์จริงแล้วหรือยังว่าเป็นพันธุ์ข้าวของใครดั้งเดิมมาจากไหน?

ทำไม? ห้ามชาวนาปลูกข้าวหอมพวง

ดังนั้นจึงควรจะเปิดใจ และมองในเรื่องคุณสมบัติ มีข้อดีข้อเสีย อย่างไร ให้มีความชัดเจนกว่านี้หรือไม่?ที่สำคัญต้องยึดถือผลประโยชน์ของชาวนาเป็นหลัก และถ้าจะให้เลิกเพาะปลูกจะต้องมีเหตุผลที่เพียงพอและสมเหตุสมผล  เพราะได้ทราบมาว่าเกษตรกร เพาะปลูก(ข้าวหอมพ่วง)เป็นจำนวนมากแล้วเพราะข้าวบางชนิดนั้นตอบโจทย์ ของเกษตรกร และตอบโจทย์ตลาดในทุกๆด้าน  แต่กลับไม่ตอบโจทย์เรื่องเราไม่ได้เป็นผูวิจัยคิดค้นขึ้นมาเอง จึงคิดว่าไม่สมควรนำมาปลูก เป็นเช่นนั้นหรือไม่?

ทำไม? ห้ามชาวนาปลูกข้าวหอมพวง

คำถามเหล่านี้ต้องการคำตอบให้กับเกษตรกรอย่างที่ชัดเจน มิเช่นนั้นจะเกิดความสับสนระหว่างหมู่เกษตรกร และที่สำคัญ ถ้าเกษตรกรชอบและนิยมเพาะปลูก แต่ถ้าหากเจ้าหน้าที่เกษตรฯ มาสอบถาม แล้วทำให้เกษตรกรรู้สึกดูเหมือนจะมีความผิด  เกษตรกรก็อาจจะแจ้งเป็นพันธุ์อื่นๆที่ไม่ตรงเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา  นี่จะยิ่งก่อให้เกิดความสับสนกันไปใหญ่ โดยเฉพาะข้อมูลที่จะนำมาใช้ในปีต่อๆไปก็จะผิดเพี้ยนไป

ทำไม? ห้ามชาวนาปลูกข้าวหอมพวง

 ทั้งนี้เรื่องของพันธุ์ข้าวที่จะได้รับความนิยมจนสามารถยืนติดตลาดเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพิสูจน์อีกระยะหนึ่งมิใช่ 1-2 ฤดูกาล  ซึ่งเป็นเรื่องของความโดดเด่นเฉพาะตัวของแต่ละพันธุ์ ว่าพันธุ์ไหนถูกใจตอบโจทย์ได้รับการยอมรับมาก ได้ราคาดีก็จะคงอยู่ต่อไป  แต่ในทางตรงข้ามหากพันธุ์ใดก็ตามยังคงไม่ตอบโจทย์ ยังมีจุดด้อยไม่เป็นที่นิยม ผลผลิตต่ำ ขายไม่ได้ราคา ในที่สุดก็จะหายไปจากตลาดเองในที่สุด

ทำไม? ห้ามชาวนาปลูกข้าวหอมพวง

ที่สำคัญวงจรการเพาะปลูกข้าวนั้นก็ใช้เวลาเพียง 90-120 วัน ไม่ได้ยาวนานจนเกินไป  ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างจึงสามารถที่จะปรับเปลี่ยนได้ หากพันธุ์ข้าวชนิดไหนเป็นที่นิยมมากหรือไม่นิยมและตอบโจทย์ตรงความต้องการเกษตรกรหรือไม่ตอบโจทย์ ในฤดูกาลใหม่ที่จะมาถึงเราก็สามารถเตรียมการที่จะปรับเปลี่ยนได้โดยไม่เสียเวลามากเกินไป  แต่กลับถือเป็นเรื่องดีที่ได้ใช้โอกาสทดลองเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเกษตรกรทุกคนและไม่เป็นการทำให้เกษตรกรเสียโอกาส!