เปิดซอง3 แหลมฉบังเฟส3 อังคาร30 เมษานี้ ไม่สน NCPร้องศาลปกครอง

27 เม.ย. 2562 | 07:30 น.

 

แม้วันที่ 26 เมษายน2562 ที่ผ่านมากลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ใช้สิทธิยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้พิจารณาเพิกถอนคำสั่งของการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) ที่มีต่อกลุ่มNCP รวมถึงขอให้ศาล ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในโครงการ ท่าเรือแหลมฉบังเฟส3   ล่าสุดแม้ศาลปกครองจะรับคำร้อง

ในเวลาต่อมาแหล่งข่าวจากคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 แจ้งว่าวันอังคารที่ 30 เมษายน 2562 เวลา 9.30 น. คณะกรรมการฯเตรียมจัดการประชุมฯ เพื่อพิจารณาผลการประเมินด้านเทคนิคซองที่ 3 ณ ห้องประชุมการท่าเรือแหลมฉบัง  ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการได้เปิดซอง3ก่อนหน้าไปแล้ว หากการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดในวันและเวลาดังกล่าว  คณะกรรมการจะดำเนินการเปิดซอง 4 พิจารณาผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่การท่าเรือต่อไปทันที พร้อมทั้งเร่งประเมินผลซอง4ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายใน1-2วัน เพื่อเปิดซองที่ 5ต่อไป หลังจากนั้น จะเร่งสรุปผลการพิจารณาผู้ชนะการประมูลให้แก่คณะกรรมการEEC ต่อไป  ถือว่าการประมูลครั้งนี้ไม่มีการแข่งขันโดยจะให้กลุ่มบริษัทร่วมลงทุนของGulfและPtt ชนะได้งานมูลค่าประมาณ80,000ล้านบาทไปอย่างไร้คู่แข่งในการเปรียบเทียบราคาในการให้ผลประโยชน์สูงสุดกับการท่าเรือและประเทศชาติ

ขณะวันที่ 26เมษายน ที่ผ่านมา นายเผด็จ เมธิยานนท์  รองประธานบริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท นทลิน จำกัด ผู้ประสานงานกลุ่ม NPC  ได้เดินทางมาร้องศาลปกครองกลางเพื่อขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 ในโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และให้คณะกรรมการหยุดพิจารณาซองที่เหลือทั้งหมดก่อนจนกว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นต่อไป  เบื้องต้นนั้นศาลรับฟ้องแล้วได้หมายเลขคดี 818/2562

โดยในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้มีหนังสือแจ้งคำสั่งมายังกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ฉบับลงวันที่ 23 เมษายน 2562 ว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) เป็นผู้ไม่ผ่านการประเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 ซองคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ เนื่องจากในส่วนสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ของกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) มีความไม่ครบถ้วนและความไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในเอกสารการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal) ของโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F

ดังนั้น กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ขอชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนดังต่อไปนี้1.  กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ได้ดำเนินการยื่นเอกสารข้อเสนอด้านคุณสมบัติทั่วไปโดยถูกต้องครบถ้วนตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal) โดยในส่วนของเอกสารสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่นั้น กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ได้ดำเนินการจัดทำและยื่นสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ตามแบบที่กำหนด พร้อมทั้งให้ตัวแทนของแต่ละสมาชิกลงนามและประทับตราสำคัญบริษัทในหน้าลงนามของสัญญาฉบับดังกล่าวโดยครบถ้วนแล้ว อีกทั้ง กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ก็ดำเนินการนำส่งสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ฉบับใหม่ให้แก่ กทท. ตามที่ กทท. ได้ขอเพิ่มเติม ดังนั้น กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) จึงมีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้องตามเอกสารการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal) ทุกประการ มิได้ขาดคุณสมบัติตามที่กำหนดในเอกสารการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal) แต่อย่างใด

 

2 กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) มีความมั่นใจว่ามูลค่าผลประโยชน์ตอบแทนตลอดอายุสัญญาสัมปทาน 35 ปีซึ่งกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ยื่นเสนอให้แก่ กทท. นั้น มีมูลค่าผลประโยชน์ตอบแทนเป็นจำนวนเงินที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นได้อย่างแน่นอน ดังนั้น หากกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ได้รับโอกาสให้แข่งขันในการคัดเอกชนเข้าร่วมโครงการฯ ในครั้งนี้อย่างเต็มที่ เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าประโยชน์สูงสุดย่อมจะตกอยู่ประเทศชาติ อันเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ของการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการฯ หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ประเทศชาติอาจได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินมหาศาลซึ่งจะเป็นปัญหาตามมาว่าผู้ใดหรือหน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายดังกล่าว

 3. กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ประกอบด้วยบริษัท นทลิน จำกัด บริษัท พรีมารีน จำกัด (มหาชน) บริษัท แอโซซิเอท อินฟินิตี้ จำกัด และ บริษัท ไชน่าเรลเวย์ คอนสตรั๊คชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CRCC) ซึ่งกลุ่มบริษัทร่วมค้าที่ล้วนแต่มีประสบการณ์อย่างสูงในทุกด้าน ทั้งในการก่อสร้างและบริหารท่าเรือและมีความพร้อมด้านการเงินการลงทุนและซึ่งผ่านคุณสมบัติของเอกสารการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal) อย่างแน่นอนโดยเฉพาะในซองที่ 2

 เบื้องต้นเมื่อกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ได้รับทราบผลการพิจารณาจาก กทท. ข้างต้น กลุ่มฯ ได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินไปเมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา