ดัน‘มิกซ์จตุจักร’ แลนด์มาร์กใหม่บางซื่อเปิดอีกขุมทองแปลงA

กทม.หนุนกลุ่มสยามพิริยา เร่งเปิดให้บริการโครงการ “มิกซ์จตุจักร” ศูนย์การค้าทันสมัยแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางตลาดนัดระดับโลก ให้พร้อมรองรับการเปิดใช้สถานีกลางบางซื่อรับรถไฟฟ้าสายสีแดง-ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน จอดรถได้กว่า 700 คัน ดีเดย์ ก.ค.นี้ขณะรฟท.เปิดขายซองที่ดินแปลง A ถึง 7 พ.ค.นี้ ยันห้างยักษ์เซ็นทรัลสนชิงดำ

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดขายเอกสารการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ แปลง A ภายใต้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ระหว่างวันที่ 9 เมษายน-7 พฤษภาคม 2562 คาดว่าจะมีบริษัทชั้นนำ ให้ความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มเซ็นทรัล ทำให้พื้นที่โดยรอบได้อานิสงส์ อย่างห้าง มิกซ์จตุจักร

แหล่งข่าวระดับสูงของกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าอยู่ระหว่างการสนับสนุนให้บริษัท สยามพิริยา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เร่งเปิดให้บริการโครงการ “มิกซ์จตุจักร” (Mixt Chatuchak) ศูนย์การค้าใจกลางตลาดนัดจตุจักรเพื่อเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางตลาดนัดระดับโลก เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อปลุกเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้เดินหน้าต่อ สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่เร่งเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อ, รถไฟฟ้าสายสีแดง, รถไฟความเร็วสูง, รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในเร็วๆ นี้

“ตั้งแต่กทม.เข้ามารับผิดชอบบริหารพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรได้ส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขัน ยกระดับการผลิต การจำหน่ายทั้งในประเทศและการส่งออก ซึ่งมิกซ์จตุจักรเป็นศูนย์กลางรวบรวมผู้ประกอบการระดับเอสเอ็มอีจากทั่วภูมิภาคมาไว้ที่นี่จึงสามารถต่อยอดการพัฒนาได้ในทันที”

ด้านนายมีพร ไชยูปถัมภ์ บริษัท สยามพิริยา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า “มิกซ์จตุจักร” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 10 ไร่ อาคารสูง 5 ชั้น มีความยาวของอาคาร 350 เมตร เข้า-ออกได้หลายทาง ชั้น 1-3 เป็นพื้นที่ร้านค้า ส่วนชั้น 4-5 และชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่จอดรถได้ประมาณ 700 คัน มีพื้นที่รวม 6 หมื่นตร.ม. กำหนดเปิดให้บริการเดือนกรกฎาคม 2562 นี้

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจุดแข็งการค้าด้วยการรวมร้านค้าและสินค้าอันเป็นที่นิยมพร้อมคัดสรรร้านค้าที่มีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์จากตลาดนัดจตุจักร และจากแหล่งผลิตต่างๆ หลากหลายสไตล์มารวมไว้ที่นี่กว่า 700 ร้านค้า

“เน้นส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs เป็นหลักให้สามารถสร้างแบรนด์ แข่งขันเพิ่มยอดขายและเติบโตได้อย่างยั่งยืนทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ร่วมสร้างต้นแบบที่ดีในการร่วมพัฒนาสินค้าของไทยที่มีดีไซน์ มีเอกลักษณ์ มีคุณภาพให้มีชื่อเสียงสู่ระดับสากล รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลการพัฒนาสินค้า ธุรกิจและก้าวทันเทคโนโลยี” 

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3461 ระหว่างวันที่ 14-17 เมษายน 2562