เอเยนต์ส่ง "นมโรงเรียน" เครียด! เปลี่ยนกฎใหม่ ดื่มสดจากแท็งก์เสี่ยงติดเชื้อ

เอเยนต์ขนส่ง "นมโรงเรียน" กุมขมับ! ผวาหลักเกณฑ์นมโรงเรียนใหม่นมบูดเสียง่าย หลัง กทม. ปรับเปลี่ยนให้ส่งเป็นแท็งก์ควบคุมอุณหภูมิ เปิดก๊อกดื่มแทนนมถุง-นมกล่อง ขณะแฉเล่ห์สหกรณ์ขาใหญ่สั่งนำเข้าโคนมเลี้ยงเพิ่ม พร้อมดอดเจรจาลับสหกรณ์-โรงนมขนาดเล็กควบรวมกิจการ

ที่ประชุมคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ได้มีการประชุมนัดแรก (4 เม.ย. 62) เพื่อกำหนดกรอบเกณฑ์อาหารเสริม (นม) โรงเรียน ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา โดยได้เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการนมโรงเรียนใหม่ แบ่งตามพื้นที่เขตปศุสัตว์ออกเป็น 5 กลุ่ม ยกเว้น กรุงเทพฯ ใน 15 เขต จัดเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีจำนวนเด็กนักเรียนมากกว่า 2 แสนคน ทำให้ผู้ประกอบการนมโรงเรียนทุกโรงใฝ่ฝันอยากครอบครอง

แหล่งข่าวเอเยนต์ขนส่งนมโรงเรียน เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่พิเศษที่ยังไม่ทราบว่า โรงงานแปรรูปนมโรงเรียนรายใดจะได้สิทธิ์ในการจำหน่าย เนื่องจากที่ผ่านมาถูกล็อกสเปก กำหนดด้วยการผสมนมฟลูออไรด์ ซึ่งทำให้มีไม่กี่โรงที่ได้รับอานิสงส์ในการจำหน่าย ซึ่งต่อมาได้ถูกยกเลิกไป เพราะทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไม่ได้ต่อใบอนุญาตให้โรงงาน ขณะที่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ได้ยกเลิกนมถุงพาสเจอไรซ์ ให้ปรับเปลี่ยนเป็นนมกล่องทั้งหมด เมื่อเทอม 2/2561 ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า ต้องการลดขยะพลาสติกที่มีมากถึง 80 ล้านใบต่อวัน

อีกด้านหนึ่งจะมีการรณรงค์ให้มีการใช้กระบอกนํ้า แก้วนํ้าส่วนตัว มาใส่นมแทน จึงเป็นที่มาของแนวคิดที่จะนำนํ้านมดิบใส่แท็งก์ควบคุมอุณหภูมิมาให้เด็กบริโภคแทน ซึ่งปัจจัยเสี่ยงมีมาก เพราะ 1.อากาศเมืองไทยร้อน ถ้าไฟดับครึ่งชั่วโมง นํ้านมดิบอาจจะเสีย, 2.การล้างแท็งก์ต้องล้างทุกวัน ถ้าล้างไม่ดีเด็กอาจจะท้องเสียจากติดเชื้อโรค, 3.แท็งก์ใส่นมแต่ละโรงเรียน ใครจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย "มีปัญหาแน่นอน หากนโยบายเป็นแบบนี้ จะไม่เหมือนที่ กทม. ไปดูงานต่างประเทศ เพราะอากาศเย็นและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า"

อีกด้านทางสหกรณ์โคนมขนาดใหญ่ ในปลายปีที่ผ่านมาได้เริ่มมีการนำเข้าโคนมมาเลี้ยงเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนเกษตรกรที่เลิกไป เนื่องจากแบกภาระขาดทุนไม่ไหว และหลักเกณฑ์ใหม่ที่กรมส่งเสริมฯ ไฟเขียวให้ควบรวมได้ ยิ่งทำให้สหกรณ์มีความได้เปรียบเพิ่ม อนาคตอาจจะกลืนโรงงานเอกชนและโรงงานผลิตที่เป็นสถาบันการศึกษาให้ออกจากระบบนมโรงเรียนไปโดยปริยาย

ขณะที่ นายวสันต์ จีนหลง นายกสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ กล่าวถึงการปรับให้เข้ากับหลักเกณฑ์ใหม่นมโรงเรียนในเทอม 1/2562 ที่จะเปิดภาคเรียนในวันที่ 16 พ.ค. นี้ ใครที่ถูกลงโทษ ทั้งเรื่องลดสิทธิ์และอื่น ๆ อาจจะได้รับนิรโทษกรรมทั้งหมด ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากการจัดสรรสิทธิ์ใหม่จะมีบทลงโทษไม่ได้รับสิทธิ์ หรือ ถูกลดสิทธิ์การจำหน่ายนม จะพิจารณาถึงแนวทางการเปรียบเทียบปรับแทน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่ผู้ประกอบการรับซื้อนํ้านม

⇲ วสันต์ จีนหลง

ส่วนการแบ่งกลุ่มอุตสาหกรรมนมตามเขตพื้นที่ปศุสัตว์นั้น ตลาดนมโรงเรียนจะมีจำนวนปริมาณนํ้านมดิบ 1,083.53 ตัน/วัน แบ่งเป็น 5 กลุ่ม/เขต อาทิ กลุ่ม 1 มีผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเป็นประธาน มีการจัดสรรพื้นที่จำหน่ายในโครงการนมโรงเรียน 155.60 ตัน/วัน มีศูนย์รวบรวมนํ้านมดิบ 40 แห่ง มีจำนวนเกษตรกร 4,360 คน มีจำนวนแม่โครีดนม 7.8 หมื่นตัว ซึ่งในกลุ่มนี้จะมีผู้ประกอบการ อาทิ สหกรณ์โคนมไทยมิลค์จำกัด, สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก จำกัด, บจก.เทียนขำแดรี่ฟูดส์ เป็นต้น ส่วนอีก 4 กลุ่มที่เหลือ ในการจัดสรรพื้นที่จำหน่ายจะมีผู้ว่าฯ ของจังหวัดที่มีผู้เลี้ยงและโรงนมมากสุดเป็นประธาน

"การจัดสรรนมโรงเรียนในแต่ละภาคนี้จะเริ่มในเทอม 2/2562 แต่ในเทอม 1/2562 ทางกรมปศุสัตว์จะจัดสรรพื้นที่จำหน่ายประเดิมนำร่องก่อน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการรอความชัดเจน ว่า จะมีการกำหนดหลักเกณฑ์อย่างไรบ้าง"


หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,459 วันที่ 7-10 เมษายน 2562