สาหัส! ปรับหนีตาย! รับเกณฑ์ "นมโรงเรียน" ใหม่

03 เม.ย. 2562 | 18:32 น.


ลุ้น! 4 เม.ย. ก.เกษตรฯ เดือด! "คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน" เตรียมประชุมนัดแรกผ่าแบ่งเค้กนมโรงเรียน 1.4 หมื่นล้าน ด้าน สมาคมนมพาสเจอร์ไรส์ปาดหน้าแซงประชุมใหญ่ งัดแผนสำรอง หากมีนมเกษตรกรสมาชิกถือครองเกินเอ็มโอยู เตรียม "ปั้นแบรนด์กลางผลิตนม" กระจายขายทั่วประเทศ ด้าน สมาชิกหนุนเชียร์พรึบ ยังมีมติเตะเบรกยกเลิกนมถุง หันมาผลิตนมกล่องโอดต้นทุนสูง

 

สาหัส! ปรับหนีตาย! รับเกณฑ์ "นมโรงเรียน" ใหม่

 

นายกิตติรัตน์ ภัทรปรีชากุล ที่ปรึกษานายกสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการประชุมเตรียมความพร้อม (3 เม.ย. 62) ยอมรับว่า ค่อนข้างมีความกังวลกับระบบการจัดสรรใหม่ในครั้งนี้ ในที่ประชุมมี นายวสันต์ จีนหลง นายกสมาคมฯ เป็นผู้บรรยายกรอบแนวทางใหม่ ซึ่งได้กำหนด 1.ให้เกษตรผู้มีสิทธิ์จำหน่ายนมดิบต้องจดทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมกับกรมปศุสัตว์ เพื่อเข้าโครงการฯ ในกลุ่มพื้นที่ผ่านแอพพลิเคชัน (Application) ตลอดห่วงโซ่อุปทานที่เป็นเรียลไทม์ (Realtime), 2.ผลิตภัณฑ์และการจัดส่งตามคุณภาพมาตรฐานตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.), 3.พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (ยกเลิกนมถุง), 4.เพิ่มสารอาหารที่เหมาะสม และ 5.เพิ่มพิจารณาเปรียบเทียบปรับ

 

สาหัส! ปรับหนีตาย! รับเกณฑ์ "นมโรงเรียน" ใหม่

 

ทั้งนี้ การจัดสรรสิทธิ หรือ โควตา รวมทั้งพื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียนให้กับผู้ประกอบการ โดยยึดหลัก 6 ข้อ ประกอบด้วย 1.ปริมาณน้ำนมดิบซื้อตามพันธสัญญา, 2.คุณภาพนมดิบและนมโรงเรียน, 3.ศักยภาพการผลิตและการตลาด, 4.ระบบโลจิสติกส์, 5.ประวัติการดำเนินงานที่ผ่านมา และ 6.ความรับผิดชอบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่มีนมเป็นของตนเอง หรือ แผนการรองรับนมดิบที่เพิ่มขึ้นตลอด 365 วัน

 

สาหัส! ปรับหนีตาย! รับเกณฑ์ "นมโรงเรียน" ใหม่

 

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ภาระรับผิดขอบที่เพิ่มขึ้น แผนการรองรับนมดิบที่เกิน ทางสมาคมได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา เพื่อศึกษาการทำแบรนด์กลางของสมาคม เพื่อช่วยเหลือสมาชิกที่รับนมเกินเอ็มโอยู นำมาผลิตแล้วให้ทุกคนช่วยกันกระจายไปขายตามโรงาน หรือ ที่อื่น ๆ ในที่ประชุมก็มีมติเป็นเอกฉันท์สนับสนุนที่จะผลิตนมเป็นแบรนด์กลาง ขายนมพาณิชย์แข่ง แต่ก็มีความเชื่อว่า ระบบใหม่จะสามารถอธิบายสังคมได้ว่า ทำไมถึงต้องให้โควตานมโรงเรียนโรงนี้มากกว่าอีกโรงหนึ่ง ทั้งที่คุณภาพน้ำนมดิบผ่านมาตรฐานเช่นเดียวกัน

 

สาหัส! ปรับหนีตาย! รับเกณฑ์ "นมโรงเรียน" ใหม่

 

สอดคล้องกับ นายวสันต์ จีนหลง นายกสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ กล่าวว่า กรอบแนวทางที่กรมปศุสัตว์จะจัดสรรพื้นที่จำหน่ายที่อาจจะเสร็จไม่ทัน ได้แก่ ข้อ 1 ให้เกษตรผู้มีสิทธิ์จำหน่ายนมดิบต้องจดทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมกับกรมปศุสัตว์ เพื่อเข้าโครงการฯ ในกลุ่มพื้นที่ผ่านแอพพลิเคชัน (Application) ตลอดห่วงโซ่อุปทานที่เป็นเรียลไทม์ (Realtime) และข้อ 3 พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (ยกเลิกนมถุง) ให้ใช้ผลิตภัณฑ์นมกล่องอย่างเดียว ทำให้ต้นทุนสูง โรงงานนมพาสเจอร์ไรส์ต้องไปจ้างผลิต ในกรอบนี้ เปิดโอกาสให้จ้างผลิตได้ ต่างจากกรอบแนวทางเดิม คือ "ไม่ว่าจ้างผู้อื่นผลิต" และสิ่งที่แปลกก็คือ ให้เพิ่มสารอาหารที่เหมาะสมได้ ขณะของเดิมต้องเป็นนมโค 100%

 

สาหัส! ปรับหนีตาย! รับเกณฑ์ "นมโรงเรียน" ใหม่

 

"เทอม 1/2562 ยังไม่แน่ใจว่าจะมีการเซ็นเอ็มโอยูหรือไม่อย่างไร แต่ผู้ที่ขายเข้าร่วมโครงการนมโรงเรียนจะต้องซื้อตามพันธสัญญา (มี พ.ร.บ.เกษตรพันธะสัญญาฯ) ปริมาณน้ำนมดิบ หากไม่ซื้อตามสัญญาจะถูกฟ้องร้องและชดใช้ค่าเสียหายเป็นเบี้ยปรับแทน ให้มองเป็นข้อดีว่า แนวทางใหม่นี้จะไม่มีบทลงโทษ ตัดสิทธิ ลดสิทธิ ใช้เป็นค่าปรับแทน ส่วนเลิกนมถุงนั้น ได้เสนอไปแล้วว่า มีต้นทุนสูง ต้องนำเข้ากล่องจากต่างประเทศ วิธีแก้ง่ายมาก ก็คือ จ้างเด็กเรียนดีแต่ยากจน เก็บถุงล้างสะอาดในแต่ละวัน ส่งกลับให้กับผู้ที่จ้างขนส่งส่งกลับ จะจ่ายค่าจ้างเป็นกิโลกรัม จะได้อานิสงค์ 2 เด้ง คือ ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเด็กและเก็บขยะไปขายส่งโรงงานแปรรูปต่อไป โดยไม่เป็นภาระของโรงเรียน"

 

สาหัส! ปรับหนีตาย! รับเกณฑ์ "นมโรงเรียน" ใหม่

 

อย่างไรก็ตาม นายวสันต์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นกังวลในหัวข้อ เรื่อง "ความรับผิดชอบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่มีนมเป็นของตนเอง หรือ แผนการรองรับนมดิบที่เพิ่มขึ้นตลอด365 วัน" นั้น หากโรงงานหรือเกษตรกรใดมีตลาดขายนมพาณิชย์ให้โรงใหญ่แล้วก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้า "ไม่มี" จำเป็นต้องมีแผนรองรับให้กับสมาชิก

 

สาหัส! ปรับหนีตาย! รับเกณฑ์ "นมโรงเรียน" ใหม่

 

อาทิ การผลิตแบรนด์กลางขายนมส่วนเกินรองรับให้สมาชิกที่ไม่มีที่จำหน่าย มาผลิตแล้วช่วยกันนำไปขาย เป็นต้น ส่วนวิธีการอื่น ๆ ก็ขออุบไว้ก่อน รอวันที่ 4 เม.ย. นี้ ที่จะมีประชุม กรมปศุสัตว์ในฐานะเลขานุการฯ จะเคาะหลักเกณฑ์ออกมา แล้วจะประกาศให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการได้สมัคร คาดว่าถึงวันนั้นแล้วทุกคนจะทราบว่า น้ำนมที่ถือกันอยู่จะสามารถเข้าร่วมโครงการนมโรงเรียนได้หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป