“กฤษฎา”สั่งแกะรอยล่า!มือเผาป่า

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” จากรายงานในทุกปีจะมีเกษตรกรบางรายลักลอบเข้าไปทำการเกษตรหรือไร่เลื่อนลอยในพื้นที่เขตป่าประเภทต่าง ๆโดยในฤดูแล้งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมของทุกปี จะมีการเผาวัชพืชเพื่อเตรียมแปลงทำการเกษตรหรือไร่เลื่อนลอยและจะเริ่มเพาะปลูกในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการลักลอบเผาเศษซากวัชพืชดังกล่าว จึงให้ดำเนินการดังนี้

“ขอให้เกษตรจังหวัดมอบหมายเกษตรอำเภอไปประสาน ขออนุญาตนายอำเภอเพื่อประสานงานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน สำรวจและจัดทำบัญชีรายชื่อกลุ่มเกษตรกรที่มีพฤติกรรมดังกล่าว และรายงานให้นายอำเภอในฐานะผอ.กองอำนวยการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่าระดับอำเภอและผวจ.ในฐานะผู้อำนวยการระดับจังหวัดหรือผอ.กอ.ปภ.จว.ทราบเพื่อพิจารณามอบหมายหรือสั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดชุดปฎิบัติการลงพื้นที่เพื่อไปประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มเกษตรกรดังกล่าวให้เลิกและหยุดการเผาดังกล่าว รวมทั้งใช้มาตรการทั้งการปกครองและการบังคับใช้กฎหมายในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวควบคู่กันไปด้วย”

พร้อมกับสั่งการให้เกษตรอำเภอไปร่วมกับชุดปฎิบัติการดังกล่าวเพื่อรับฟังข้อเสนอในเรื่องที่ทำกินและการพัฒนาอาชีพจากกลุ่มเกษตรกรด้วย เพื่อนำข้อเสนอดังกล่าวมาประสานงานกับ สปก. จังหวัด และหรือสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯจังหวัด(ทส.จ.)นำเข้าพิจารณาตามโครงการปฎิรูปดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) หรือโครงการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.)ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯต่อไป หากกลุ่มเกษตรกรข้างต้นมีข้อเสนอขอให้ทางราชการช่วยส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มพูนรายได้ครอบครัว ก็ให้นำข้อเสนอหรือโครงการดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด(อ.พ.ก.)เพื่อพิจารณาสนับสนุนโครงการด้วย

นายกฤษฎา กล่าวว่า หากการดำเนินงานต่างๆ  ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาหมอกควันที่เกิดจากการเผาเศษซากวัชพืช เพื่อเตรียมการทำไร่เลือนลอยในพื้นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้เนื่องจากเกินขีดความสามารถระดับพื้นที่หรือต้องการขอรับการสนับสนุนปัจจัยทางการบริหารเพิ่มเติมก็ให้เสนอนายอำเภอพิจารณาประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดเพื่อขอรับการสนับสนุน หรือรายงานกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ส่วนกลางพิจารณาต่อไป

มอบหมายให้ผู้ตรวจกระทรวงทุกเขต ตรวจติดตามการปฎิบัติงานแก้ไขปัญหาการเผาเศษซากพืชหรือวัชพืช หรือ เศษวัสดุการเกษตรในพื้นที่ด้วย โดยให้กำกับกระบวนการทำงานตามข้อสั่งการให้มีประสิทธิภาพ และหากพบว่ามีปัญหาอุปสรรคใดๆ ในพื้นที่ขอให้รายงานปลัดเกษตรและรัฐมนตรีทราบเพื่อจะเร่งแก้ไขปัญหาต่อไปได้ทันท่วงที

“วันนี้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจ.เชียงใหม่ได้ขึ้นบินปฏิบัติทำให้มีในตกบริเวณจ.น่านและเชียงใหม่ ดังนี้ จังหวัดน่านขึ้น 2 เที่ยวบิน ขั้นก่อเมฆเที่ยวแรกขึ้นเวลา 10.00 น.  ขั้นโจมตีเที่ยวที่ 2 ขึ้นเวลา 14.00 น. ทำให้ฝนตกเวลา 14.45 น. บริเวณ อ. เมือง อ.บ้านหลวง จ.น่าน ปริมาณเล็กน้อย ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ขึ้น 2 เที่ยว ขั้นโจมตีเที่ยวแรก 14.00 น. ขั้นโจมตีเที่ยวที่ 2 ขึ้นเวลา 16.05 น. ทำให้มีฝนตกบริเวณเวลา 15.15 น. อ.สะเมิง อ.แม่ริม อ.แม่แตง  เวลา 16.53 น. อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ปริมาณเล็กน้อย จากผลการปฎิบัติงานดังกล่าวนี้ต่างมีเสียงชื่นชมและให้กำลังใจผ่านเฟสบุคส์ฝนหลวงอย่างล้นหลามและกล่าวถึงพระอัจฉริยะ และสำนึกพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ร.9 ยิ่งทำให้รู้สึกปิติและปราบปลื้มใจพร้อมที่จะปฎิบัติให้พสนิกรของพระองค์หมดทุกข์หมดโศกโดยเร็ววัน”